xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.ทลายเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ภาคเหนือ คาดมีเงินหมุนเวียนนับพันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และนายอาจง แซ่หลู่ หรือนายถาวร สมจิตร ผู้ต้องหา (สวมเสื้อแจ็คเก็ต)
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “พงศพัศ” นำกำลังตำรวจ-ป.ป.ส.ทลายเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่พื้นที่ภาคเหนือที่เชียงใหม่ จับกุม 6 สมาชิกพร้อมยึดทรัพย์อีกเพียบ เฉพาะบัญชีเดียวมีเงินเคลื่อนไหวถึง 200 ล้าน คาดรวมทรัพย์สินทั้งหมดถึงหลักพันล้าน เผยเป็นเครือใหญ่สมาชิกแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ส่งยาขายทั้งภาคเหนือ-กลาง-ใต้ไปจนถึงมาเลเซีย ยันเตรียมขยายผลตามล่าเครือข่าย-ทรัพย์สินที่เหลือต่อ หากเจอเมื่อไหร่ยึดทรัพย์ทันที

วันนี้ (21 ต.ค.55) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ.10 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 กำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 501/68 หมู่บ้านพิมุกต์ 1 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และจับกุมนายอาจง แซ่หลู่ หรือนายถาวร สมจิตร อยู่บ้านเลขที่ 268/20 ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ประสานงานคนสำคัญของเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ที่นำยาเสพติจากผู้ผลิตนอกประเทศเข้ามาจำหน่ายทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ภาคกลาง และภาคใต้

จากการตรวจค้นภายในบ้านพบ สมุดบัญชีเงินฝากและโฉนดที่ดินหลายรายการ รวมทั้งรถยนต์และเงินสดประมาณ 2.5 ล้านบาท โดยนายอาจงให้การว่าบ้านหลังดังกล่าวได้ซื้อไว้เพื่อใช้พักอาศัยเป็นครั้งคราว แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพักยาเสพติดและเป็นสถานที่นัดหมายเพื่อรับเงินค่ายาเสพติด

การจับกุมนายอาจงในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากคดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายขันธ์ชัย เขตรักษา อยู่บ้านเลขที่ 610 ม.9 ต.หนองบัวระเหวง อ.หนองบัวระเหวง จ.ชัยภูมิ และนายหิรัญ ยาเขต อยู่บ้านเลขที่ 164/6 ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด รถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน ผต 1920 เชียงใหม่ ได้ที่บริเวณสี่แยกเขาทอง ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การว่า รับยาบ้าดังกล่าวมาจากกลุ่มของนายอาจง ที่บ้านแกน้อย ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยได้รับคำสั่งจากนายชนุดม ชุติวัฒนโภคิน หรืออาซาผะ เลายี่ป๋า อยู่บ้านเลขที่ 699/27 ม.12 ต.ป่าแดด องเมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้จัดหาคนลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้า

ทั้งนี้จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า เครือข่ายของนายอาจงมีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน โดยประกอบด้วย 1.นายอาจง ซึ่งเป็นผู้ประสานงานจัดหายาเสพติดจากนอกประเทศเพื่อนำมาจำหน่าย และรับเงินค่ายาเสพติดกลับไปส่งให้ผู้ผลิตนอกประเทศ 2.นายเอกอมร แซ่หยาง อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.9 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทำหน้าที่เบิกถอนเงินค่ายาเสพติดตู้เอทีเอ็มและธนาคารพาณิชย์และนำไปส่งมอบให้กับนายอาจงตามคำสั่ง 3.นายชนุดม ซึ่งทำหน้าที่จัดหาผู้ลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้า รวมทั้งขับรถสำรวจเส้นทางลำเลียงยาเสพติด 4.นายขันธ์ชัย ซึ่งทำหน้าที่จัดหาผู้ลำเลียงยาเสพติดตามคำสั่งของนายอาจงและนายชนุดม และขับรถเพื่อสำรวจเส้นทางลำเลียงยาเสพติด และ 5.นายหิรัญ ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดตามคำสั่งของนายอาจงและนายชนุดม โดยในการลำเลียงยาเสพติดจะใช้เส้นทางรองเพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีนายแวอูเซ็ง แวยามา อยู่บ้านเลขที่ 73/4 ม.9 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ติดต่อซื้อยาเสพติดจากนายอาจงเพื่อนำไปจำหน่ายในภาคใต้และประเทศมาเลเซีย ตามคำสั่งของนายอิสมาดี อูเซ็ง และอยู่ในระหว่างเป็นตัวประกันค่ายาเสพติดรวมอยู่ด้วย และจากความเชื่อมโยงที่พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือของนายขันธ์ชัยและนาย หิรัญ ได้แก่ นายชนุดม นายแวอูเซ็ง นายเอกอมร และนายอาจง รวมทั้งทำการตรวจสอบและยึดทรัพย์สินที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องหรือได้มาจากการค้ายาเสพติด ซึ่งรวมถึงบ้านหลังดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นในวันนี้ด้วย

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ในครั้งนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาในการสอบสวนและติดตามดูพฤติกรรมมายาวนาน จนมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายรายใหญ่ จึงได้เข้าทำการจับกุมและยึดทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าคนร้ายมีเงินเคลื่อนไหวในบัญชีเป็นจำนวนมาก เฉพาะบัญชีหนึ่งที่ตรวจพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าเครือข่ายดังกล่าวน่าจะมีทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดรวมแล้วถึงหลักพันล้านบาท

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อไปว่า จากการสืบสวนพบว่าเงินที่มีการเคลื่อนไหวในบัญชีของผู้ต้องหาถูกโอนมาจากหลายพื้นที่ โดยมีจุดที่น่าสนใจคือ มีเงินฝากเข้าบัญชีจากต้นทางที่ อ.สุไหงโกลก จำนวน 39 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินที่ได้จากการส่งยาเสพติดไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนเงินที่เข้ามานั้นถูกเบิกถอนที่ จ.เชียงใหม่เป็นหลัก

นอกจากนี้ จากการขยายผลจากคดียาเสพติดที่ได้จับได้หลายพื้นที่ เช่นที่ชุมชนคลองเตย พบว่าได้รับยาเสพติดมาจากเครือข่ายของนายอาจงด้วย อย่างไรก็ตามนายอาจงยังอ้างว่ามีผู้สั่งการอีกทอดหนึ่ง แต่จากการสืบสวนมีข้อมูลชัดเจนว่านายอาจง เป็นผู้ทำหน้าที่บริหารจัดการในการลำเลียงและซื้อขายยาเสพติดผ่านเครือข่ายของตัวเอง

สำหรับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปนั้น เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระบุว่าจะทำการขยายผลทั้งในส่วนของยาเสพติดที่นายอาจงนำเข้ามาจำหน่าย รวมถึงเครือข่ายต่างๆ ที่รับยาเสพติดจากนายอาจง นอกจากนี้จะติดตามค้นหาทรัพย์สินต่างๆ ที่คาดว่าได้มาหรือเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ซึ่งคาดว่านายอาจงและพวกซุกซ่อนหรือฝากไว้ในนามผู้อื่น โดยหากตรวจพบจะทำการยึดทรัพย์ตามอำนาจของ ป.ป.ส.ทั้งหมด ขณะที่ผู้ที่รับฝากทรัพย์สินเหล่านี้ไว้ก็จะมีความผิดทางอาญาด้วย ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้งหมดจะส่งไปคุมขังที่ จ.นครสวรรค์ โดยทั้งหมดจะถูกแยกขังเดี่ยวเพื่อไม่ให้สามารถติดต่อกับผู้ใดได้ จนกว่าการขยายผลติดตามหาเครือข่ายและทรัพย์สินที่เหลือจะแล้วเสร็จ

ส่วนการติดตามปราบปรามเครือข่ายอื่นๆ นั้น จากข้อมูลขอกองบยัญขาการตำรวจภูธรภาค 5 พบว่าในพื้นที่ภาคเหนือยังมีเครือข่ายในลักษณะดังกล่าวอีก 4-5 เครือข่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามสืบสวน โดยจะไม่เน้นเป้าหมายที่ปริมาณยาเสพติดที่จับได้ แต่จะมุ่งไปที่การค้นหาขบวนการค้ายาเสพติดให้พบทั้งเครือข่าย และใช้การยึดทรัพย์เป็นมาตรการสำคัญในการดำเนินคดีกับเครือข่ายยาเสพติดและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตรวจค้นภายในบ้านที่เครือข่ายยาเสพติดของนายอาจงใช้เป็นสถานที่พักของและนัดหมายรับมอบเงิน
ทรัพย์สินบางส่วนที่ค้นพบภายในบ้าน
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตรวจสอบรถที่เครือข่ายยาเสพติดใช้ในการกระทำผิด

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สอบถามข้อมูลจากนายอาจง แซ่หลู่ หรือนายถาวร สมจิตร (สวมเสื้อแจ็คเก็ต) และนายเอกอมร แซ่หยาง (เสื้อสีแดง) สองผู้ต้องหาจากเครือข่ายยาเสพติดที่จับกุมได้
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำนายอาจง แซ่หลู่ หรือนายถาวร สมจิตร ผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้จากเครือข่ายมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ส่วนหนึ่งของเงินสดและยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้จากเครือข่ายยาเสพติดของนายอาจง
กำลังโหลดความคิดเห็น