ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ว่าฯ ขอนแก่น สั่งนายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนให้ยึดโครงการจำนำข้าวเป็นภารกิจร่วม หวังปิดประตูไม่ให้เกิดม็อบชาวนาในพื้นที่ ด้านตัวแทนเกษตรกรพ้อข้าราชการเกรงใจนักการเมืองมากกว่าชาวนา ระบุชาวนายังไม่เข้าใจหลักเกณฑ์การรับจำนำ ทั้งจุดรับจำนำน้อยต้องแบกภาระต้นทุนค่าเดินทาง หากไม่ได้รับความเป็นธรรมอาจมีการรวมตัวประท้วงได้
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ห้องประชุมเสียงแคน จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมอนุกรรมการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด โดยนายสมศักดิ์กล่าวย้ำว่า ขณะนี้โครงการรับจำนำข้าวกลายเป็นประเด็นทางการเมือง รัฐบาลจึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานการประชุมทุกครั้ง ไม่ให้การดำเนินการโครงการกระทบต่อรัฐบาล ดังนั้นตนจึงสั่งการให้นายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนให้ยึดโครงการรับจำนำข้าวเป็นภารกิจร่วม เพื่อเดินหน้าโครงการให้ลุล่วง
ทั้งนี้ โครงการรับจำนำข้าวปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้เริ่มเปิดรับจำนำเมื่อวันนี้ 1 ต.ค.โดยจะสิ้นสุดการรับจำนำวันที่ 15 กันยายน 2556 ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดขอนแก่นผลการรับจำนำของปี 2554/2555 มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนำรวม 41,414 ราย ปริมาณข้าวรวม 95,680 ตัน มีโรงสีเข้าร่วมโครงการ 15 แห่ง
ขณะที่ปีนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดรับจำนำทั้งแบบประทวนและรับจำนำยุ้งฉาง จังหวัดขอนแก่นมีเกษตรกรลงทะเบียนแล้วร่วม 1,200 ราย เป็นปริมาณข้าวกว่า 5,500 ตัน
อย่างไรก็ตาม จากปีที่แล้วมีเกษตรกรที่มีหนี้ค้างประมาณ 200 ราย ซึ่งได้แจ้งว่ามีข้าวแต่ปริมาณไม่มากตามที่ลงทะเบียนไว้เนื่องจากประสบภัยแล้งจึงยังไม่สามารถส่งมอบได้ โดยจากการทวงถามเกษตรกรยืนยันว่าจะหาเงินมาชำระหนี้คงค้าง
สำหรับโครงการรับจำนำของปี 2555/2556 คาดการณ์ว่าจากสภาวะภัยแล้งรุนแรง จะส่งผลกระทบให้ผลผลิตลดลง กว่า 50% โดยขณะนี้มีโรงสีเข้าร่วมโครงการ จาก 26 อำเภอ เป็นจุดรับจำนำในพื้นที่แล้ว 6 อำเภอ จำนวน 13 แห่ง
ด้านตัวแทนเกษตรกรที่เข้าร่วมประชุมระบุว่า จุดรับจำนำในจังหวัดขอนแก่นมีน้อยเกินไป ซึ่งระยะทางที่ไกล ทำให้เกษตรกรต้องเสียค่าเดินทางในการเหมารถขนข้าวไปยังจุดรับจำนำสูง ควรที่จะเพิ่มจุดรับจำนำอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรมากกว่านี้ อีกทั้งเมื่อไปถึงจุดรับจำนำ เกษตรกรจำนวนมากยังไม่มีความเข้าใจในระยะทาง น้ำหนัก/กิโลกรัม และค่าความชื้น ทำให้เกิดข้อถกเถียงหน้าจุด หรืออาจเกิดความเสียเปรียบโรงสีได้
เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจในการช่วยเหลือชาวนา โดยเห็นว่าทางจังหวัดเกรงใจนักการเมืองมากกว่าเกรงใจชาวนา ซึ่งหากชาวนาไม่ได้รับความเป็นธรรมอาจมีการรวมตัวประท้วงได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายการประชุม นายสมศักดิ์ได้ย้ำให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกำหนดบทบาทหน้าที่กันอย่างชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่เนื่องจากเจ้าหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างเกษตรกรชาวนา และเจ้าของโรงสี ทั้งการเพิ่มจุดรับจำนำข้าว โดยแต่ละอำเภอจะต้องพิจารณาว่ามีโรงสีในพื้นที่ยื่นขอร่วมโครงการเพิ่มเติมแล้วเหมาะสมที่จะรับเข้าโครงการหรือไม่ จากนั้นให้รวบรวมนำมาสรุปรายงานต่อที่ประชุมครั้งต่อไป
แต่ที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนโดยทันที คือ การค้าภายในจังหวัด ให้ประสานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่อยู่ประจำจุดรับจำนำ เพื่อจัดหาวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเข้าไปอบรมให้ความรู้ความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้ให้คำแนะนำในหลักเกณฑ์อย่างแม่นยำให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือว่าปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียน เนื่องจากเป็นปีแรกของการดำเนินโครงการ