กาฬสินธุ์ - ผอ.คุมประพฤติกาฬสินธุ์ เผยยอดคดีจับยาเสพติดกาฬสินธุ์พุ่งสูงที่สุดในภาค 4 ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี ณ ปัจจุบันมีผู้ถูกคุมประพฤติกว่า 7 พันราย พร้อมเดินหน้าประกาศโครงการชาวคุมประพฤติ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่หอประชุมสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ แห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนถีนานนท์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, นายวิบูลย์ ธรรมะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลากาฬสินธุ์ นายวิษณุ หาญนที อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์,นายไพบูลย์ ศรีธูป ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเด็กเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่คุมประพฤติในภาค 4 ร่วมกันทำบุญสำนักงานแห่งใหม่และเปิดโครงการชาวคุมประพฤติ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในปีมหามงคล พ.ศ.2555 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปและประกอบพิธีดื่มน้ำสาบานโดยกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติในจังหวัดกาฬสินธุ์ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
นายวงศวัฒน์ ปัญญาวุฒิวงษ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากการเปิดสำนักงานใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนถนนถีนานนท์ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ยังได้เปิดโครงการชาวคุมประพฤติไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งการคุมประพฤติหมายถึงการสนับสนุนในด้านการบำบัดรักษา
เนื่องจากปัจจุบันในรูปคดีที่ถูกส่งมาเฉพาะในสายงาน มีผู้ถูกคุมประพฤติกว่า 4,600 ราย และถูกศาลพิพากษาส่งตัวมาคุมประพฤติกว่า 3 พันราย ซึ่ง รวมแล้วกว่า 7,600 รายที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีและถือว่ามีจำนวนมากที่สุดในงานปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 4
นายวงศวัฒน์ ระบุว่า การให้ดื่มน้ำสาบานตนจึงเป็นกุศโลบายที่จะให้ผู้ที่ดื่มน้ำสาบานได้ปฏิญาณตนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อลดจำนวนผู้เสพ ผู้ค้าให้น้อยลง ตามนโยบายของรัฐบาลและจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ทั้งนี้ มีผู้ที่ถูกคุมประพฤติเข้าร่วมกิจกรรม ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรม ชุมชนและผู้กระทำผิดที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานฯ จำนวน 250 คน
ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานแห่งใหม่จะเป็นสถานที่รองรับผู้ที่ถูกคุมประพฤติได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากสถานที่เดิมคับแคบ อีกทั้งจำนวนผู้ถูกคุมประพฤติก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อมีสำนักงานใหม่ในอนาคตก็จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ผู้ถูกคุมประพฤติที่ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดได้กลับคืนสู่สังคม