ชาวบ้านพื้นที่ชนแดนตะเข็บจังหวัดครวญการช่วยเหลือเข้าไม่ถึง

ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านหมู่บ้านพื้นที่ชนแดน ใกล้แนวตะเข็บรอยต่อจังหวัดครวญ การช่วยเหลือจากโลกภายนอกยังเข้าไม่ถึงมือชาวบ้าน เผยตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่น้ำเริ่มไหลเข้า มีเพียงถุงยังชีพพระราชทานตกถึงท้องครั้งเดียว เหตุจากหมู่บ้านถูกตัดขาด ขณะถนนเชื่อมหมู่บ้านจมน้ำทุกสาย สัญจรเข้าออกได้เพียงทางเรือเท่านั้น

วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่โซนน้ำท่วมของ จ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยประจำปีอย่างหนัก บริเวณใกล้แนวตะเข็บรอยต่อระหว่างจังหวัดปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งถูกใช้เป็นพื้นที่รับน้ำจากโซนภาคกลาง และภาคตะวันออกตอนบนยังมีบางหมู่บ้านที่การช่วยเหลือจากภายนอกเข้าไม่ถึงทั้งสองด้านของรอยตะเข็บจังหวัดคือ พื้นที่ ม.6 บ้านบางกระดาน และ หมู่ 7 บ้านบางต้นจิก ต.บางกระเจ็ด อ.บางคล้า และพื้นที่เขต ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรีทั้งที่เป็นพื้นที่ที่มีโรงงานผลิตเครื่องดื่มชูกำลังยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ (กระทิงแดง) พร้อมด้วยโรงงานห่วงโซ่การผลิตขวดชื่อดังก้องประเทศ ในนาม “กระต่ายแก้ว” (บางกอกกล๊าส) อยู่ในพื้นที่

โดยนายสุพรรณ บางระหัด อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.7 ต.บางกระเจ็ด ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า หมู่บ้านถูกน้ำจากทั่วทุกทิศไหลบ่าเข้ามารวมกันท่วมพื้นที่มานานเกือบหนึ่งเดือนเต็มแล้ว เนื่องจากเป็นท้องทุ่งที่อยู่ใกล้กับลำน้ำบางปะกง และอยู่ใกล้จุดปล่อยน้ำทิ้งออกจากปากคลองแสนแสบ จนข้าวในนาของชาวบ้านรายที่ทำการเก็บเกี่ยวไม่ทันเสียหาย ขณะที่ถนนหนทางสัญจรภายในหมู่บ้านถูกตัดขาดทุกสาย จนถึงขณะนี้ น้ำก้อนใหญ่จาก จ.ปราจีนบุรี ได้ไหลลงมาสมทบจากน้ำที่เคยเอ่อท่วมอยู่เดิม จนมีระดับท่วมสูงถึงกว่า 1.5 เมตร และในบางจุดที่อยู่ใกล้ริมลำคลองระดับท่วมสูงถึงกว่า 2 เมตรเศษแล้ว

ที่ผ่านมา ชาวบ้านยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลืออะไรจากโลกภายนอกมากนัก เนื่องจากการสัญจรเข้าสู่หมู่บ้านนั้นยากลำบาก โดยสามารถใช้เรือเข้าถึงพื้นที่ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงทำให้การช่วยเหลือส่วนใหญ่นั้นจึงเข้าไม่ถึงหมู่บ้าน ที่ผ่านมา มีเพียงถุงยังชีพพระราชทานที่มีผู้แทนพระองค์นำมาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านเพียงครั้งเดียว หลังละ 1 ถุงเท่านั้น

ส่วนความเดือดร้อนในขณะนี้ ชาวบ้านต้องการเรือมากที่สุดเพื่อไว้ใช้ในการสัญจรเข้าออกจากหมู่บ้าน และสามารถลำเลียงเสบียง หรือซื้ออาหารไปเก็บไว้บริโภคได้เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่อยากที่จะทิ้งบ้านหนีน้ำเพราะเป็นห่วงทรัพย์สินจึงได้ใช้วิธีหนุน หรือยกที่นอนให้สูงขึ้นจากพื้นกระดานของบ้านที่ถูกน้ำท่วมใช้สำหรับหลับนอนหนีน้ำ โดยขณะนี้ระดับน้ำสูงขึ้นเหนือกว่าแผ่นกระดานของบ้านยกพื้นสูงเกือบหมดทุกหลังแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่า ตลอดทั้งวันในวันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม สลับกับมีแสงแดดสาดส่องลงมาบ้างเมื่อช่วงเช้า จากนั้นได้มีฝนตกพรำโปรยลงมาในบางพื้นที่โดยจุดที่ถูกน้ำท่วมที่กำลังเกิดปัญหาหนักมากที่สุดของจังหวัดในขณะนี้ คือ เขตพื้นที่ อ.บางคล้า ส่วนในพื้นที่ ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม ที่เคยถูกน้ำท่วมมาเกือบ 1 เดือนเต็มนั้น ระดับน้ำได้ลดลงไปมากแล้ว จนถนนเชื่อมหมู่บ้านหลายสายเริ่มใช้งานได้ และสภาพพื้นที่บางจุดยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่บ้างเท่านั้น