“พังทอง” ล้มแล้ว สัตวแพทย์งง! ถือเป็นรายแรกที่ตายทั้งกลม

ลำปาง - “ช้างพังทอง” ล้มแล้วหลังอยู่ รพ.มูลนิธิเพื่อนช้างผ่านมา 3 วัน จนลูกตายในท้อง พร้อมรอซากลูกหลุดออกจากท้อง แต่ล่าสุดพังทองช็อกและตายทันที

สายวันนี้ (4 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ช้างพังทอง อายุ 25 ปี ที่ท้องแก่และถุงน้ำคร่ำแตกแต่ลูกไม่ยอมคลอดออกมาจนมีอาการอ่อนเพลีย ควาญช้างจึงได้นำตัวออกมาจากปางช้างแห่งหนึ่งใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ส่งมารักษาที่โรงพยาบาลของมูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

ปรากฏว่าตลอดเวลาที่เข้ามาอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ได้ให้สารน้ำเกลือ วิตามิน และยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยให้พังทองมีอาการดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อรอให้พังทองเบ่งลูกที่คาดว่าจะตายอยู่ในท้องออกมาเองตามธรรมชาติ เนื่องจากสัตวแพทย์จะไม่นิยมในการผ่าตัดเนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่ และในต่างประเทศเมื่อผ่าตัดแล้วช้างจะเสียชีวิตทุกราย

ดังนั้น สัตวแพทย์จึงได้แต่ให้ยาบำรุงเพื่อให้ช้างแข็งแรง ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) พังทองยังไม่แสดงอาการใดๆ และน้ำเมือกที่ไหลออกจากปากช่องคลอดก็มีลักษณะเป็นน้ำใส จากเดิมที่เป็นสีคล้ำ และบริเวณท้องได้ยุบลงเล็กน้อย แต่พังทองกินอาหารได้น้อย บริเวณเต้านมแห้งไม่มีน้ำนม ซึ่งสัตวแพทย์คาดว่าลูกที่ตายในท้องอาจจะยังไม่เน่าเนื่องจากเมือกใสและไม่มีกลิ่น

แต่ปรากฏว่าสายของวันนี้ระหว่างที่ควาญช้างได้พาพังทองเดินออกกำลังกาย โดยการพาเดินออกรับแดดเพื่อให้พังทองมีอารมณ์สดชื่นและดีขึ้น แต่ระหว่างที่เดินอยู่พังทองเกิดอาการช็อกและล้มตัวนอนลงกับพื้นและดิ้นจากนั้นก็เสียชีวิตทันที โดยที่ทางทีมสัตวแพทย์พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของพังทองเอาไว้ได้

นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการตายของช้างพังทองได้เนื่องจากต้องรอผลเลือดที่ส่งไปตรวจก่อน ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลฯ ได้รับช้างท้องมากว่า 20 เชือก และเมื่อตกลูกแล้วลูกช้างตายเกิดขึ้น 2 ครั้ง แต่กรณีที่แม่ตายด้วยยังไม่เคยเกิดขึ้น

ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากความอ่อนเพลียของช้างที่กินอาหารไม่ได้และน้ำเกลือที่ให้อาจจะไม่พอ หรือลูกที่ตายอยู่ในท้องส่งผลต่อแม่ช้างหรือไม่ มีการติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลตรวจที่ชัดเจนถึงจะบอกสาเหตุการตายของพังทองได้ และทางโรงพยาบาลฯ จะได้ทำการผ่าซากช้างเพื่อตรวจหาสาเหตุอีกครั้งในวันนี้