ลำปาง - สัตวแพทย์คาดลูก “พังทอง” น่าจะตายในท้องแล้ว แต่ต้องรอให้หลุดออกมาเอง ไม่ผ่าตัดหวั่นแม่ช้างเสียชีวิต
หลังจากทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้รับช้าง “พังทอง” อายุ 25 ปี จากปางช้างใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เข้ารักษาเนื่องจากน้ำคร่ำแตก แต่ลูกที่อยู่ในท้องไม่ออก จนทำให้พังทองเริ่มอ่อนเพลีย ควาญช้างซึ่งนำพังทองมาจากปางช้างจึงรีบนำตัวมารักษา เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.)
และเมื่อพังทองมาถึง รพ.ช้างฯ สัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกาย และให้สารเกลือแร่ที่ผสมยาปฏิชีวนะ วิตามินเพื่อให้พังทองแข็งแรงขึ้น ส่วนที่บริเวณปากช่องคลอดยังคงมีน้ำเมือกสีคล้ำไหลออกมาตลอดเวลา
ล่าสุดวันนี้ (2 ต.ค.) นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้างได้เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของพังทองว่า จากการสังเกตอาการคือน้ำคร่ำที่ไหลออกมาจากปากช่องคลอดของพังทองซึ่งมีสีคล้ำ คาดว่าลูกที่อยู่ในท้องของพังทองคงจะเสียชีวิตแล้ว แต่ทั้งนี้พังทองยังไม่มีการเบ่งแต่อย่างใด
ดังนั้น ทางสัตวแพทย์จึงได้เพียงแค่ให้สารน้ำเกลือ วิตามินช่วยให้พังทองแข็งแรง และรอให้พังทองคลอดลูกที่อยู่ในท้องออกมาเอง โดยจะไม่ทำการผ่าตัดเนื่องจากหากทำการผ่าตัดแม่ช้างจะเสียชีวิตทุกราย
ทั้งนี้ หากลูกช้างเสียชีวิตในท้องส่วนใหญ่แม่ช้างจะคลอดซากลูกออกมาเองภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่หากพ้นจากนั้นแล้วยังไม่มีการคลอดออกมา และแม่ช้างมีอาการเจ็บปวด พยายามเบ่งให้ซากลูกออก ทางสัตวแพทย์ก็จะใช้วิธีฉีดยาเร่ง และอาจจะต้องช่วยดึงลูกช้างออก แต่ขณะนี้พังทองยังไม่แสดงอาการใดๆ
ส่วนสาเหตุที่ลูกช้างเสียชีวิตในท้องนั้นก็มีหลายสาเหตุแตกต่างกันไป เช่น เกิดจากสายสะดือขาด หรือสายสะดือไปพันคอลูกช้างจนทำให้เสียชีวิต ซึ่งก็เหมือนกับคนเช่นเดียวกัน เพียงแต่ในช้างจะไม่ใช้การผ่าตัดเท่านั้น เพราะช้างเป็นสัตว์ใหญ่การผ่าตัดทำได้ลำบาก จึงต้องปล่อยให้แม่ช้างขับสิ่งแปลกปลอมออกมาเองจึงจะปลอดภัย ซึ่งก็ต้องให้เจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด หากแม่ช้างมีอาการผิดปกติก็จะสามารถช่วยเหลือได้ทันที
