xs
xsm
sm
md
lg

สัตวแพทย์ช่วย “พังทอง” ฟื้นร่างกาย หวังให้ขับซากลูกออกเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลำปาง - สัตวแพทย์ยังคงต้องให้สารน้ำเกลือแก่ “พังทอง” ที่คาดว่าลูกจะตายในท้องแล้ว หวังแข็งแรงขึ้นจนขับซากลูกในท้องออกมาตามธรรมชาติ

หลังจากทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ของศูนย์ ได้รับช้าง “พังทอง” อายุ 25 ปีเข้ารักษาเนื่องจากน้ำคร่ำแตก แต่ลูกที่อยู่ในท้องไม่ออกจนทำให้พังทองเริ่มอ่อนเพลีย ควาญช้างซึ่งนำพังทองมาจากปางช้างแห่งหนึ่งใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จึงรีบนำตัวมารักษาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 55 ที่ผ่านมา

หลังจากมาถึงสัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกาย และให้สารเกลือแร่ที่ผสมยาปฏิชีวนะ วิตามิน เพื่อให้พังทองแข็งแรงขึ้น ส่วนที่บริเวณปากช่องคลอดยังคงมีน้ำเมือกไหลออกมาตลอดเวลา

ล่าสุด นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของพังทองว่า อาการโดยทั่วไปของพังทองยังเหมือนเดิม คือยังมีน้ำเมือกไหลออกมาจากปากมดลูก แต่ไม่มีกลิ่นและน้ำเมือกมีสีใสขึ้นกว่าเดิม บริเวณเต้านมเริ่มแห้งและไม่มีน้ำนม บริเวณท้องยุบลงเล็กน้อย แต่พังทองกินอาหารได้น้อยลง และยังคงไม่แสดงอาการอื่นใดออกมา

ดังนั้น จากอาการที่ปรากฏคาดว่าลูกที่อยู่ในท้องจะยังไม่เน่าเนื่องจากน้ำเมือกยังใส และไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ทางสัตวแพทย์ก็ยังคงต้องให้สารน้ำเกลือ วิตามิน และยาปฏิชีวนะไปเรื่อยๆ เพื่อให้พังทองแข็งแรงขึ้น จะได้ขับลูกที่อยู่ในท้องออกมาเองตามธรรมชาติเพื่อความปลอดภัยของแม่ช้าง

นายสัตวแพทย์ปรีชากล่าวเพิ่มเติมว่า อยากฝากเตือนไปยังเจ้าของช้างทั้งหลายที่รู้ว่าช้างของตนเองท้อง อย่าใช้ทำงานหนัก ควรจะหยุด เนื่องจากหากช้างท้องแก่แล้วยังคงทำงานอาจจะทำให้ช้างแท้งลูกเหมือนคน คือหากคนท้องก็ต้องห้ามทำงาน ห้ามใส่รองเท้าส้นสูงเพราะกลัวจะล้ม

เช่นเดียวกับช้าง หากช้างท้องแก่บางครั้งเมื่อปล่อยออกไปทำงานช้างอาจจะหกล้ม หรือลื่นไถล หรืออาจถูกช้างเชือกอื่นชน ก็จะทำให้ลูกในท้องเสียชีวิตได้ ซึ่งควาญหรือเจ้าของช้างอาจจะไม่รู้หรือไม่เห็น อาจจะเหมือนกับพังทองเชือกนี้ ซึ่งจากการสอบประวัติพบว่า แม้จะท้องแก่ แต่ทางควาญช้างก็ยังให้รับนักท่องเที่ยวเดินป่าจนวันสุดท้าย จนน่าจะส่งผลกระทบถึงลูกในท้องให้เสียชีวิตได้

กำลังโหลดความคิดเห็น