ศูนย์ข่าวศรีราชา - หวั่นน้ำผึ้งหยดเดียวทำ 2 สถาบันทหาร-ตำรวจขุ่นเคือง หลังทหารถูกผู้ใหญ่บ้านและลูกชายระเบิดสมองดับ คนร้ายยังลอยนวล กองทัพเรือส่งนายพล เข้าพบผู้ ผกก.สภ.สัตหีบ จี้คดีพร้อมส่งชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าร่วมไล่ล่าลากคอ ไอ้ฟลุ๊ค มือปืนสุดโหดเข้าตาราง
วันนี้ (3 ต.ค.55) ที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ในฐานะผู้แทนกองทัพเรือ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงและนายทหารพระธรรมนูญได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ ในการเร่งติดตามความคืบหน้าคดีนายจารุ เลี้ยงต้น หรือ ผู้ใหญ่ทิ้ง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านสัตหีบหมู่ที่ 7 ร่วมกับนายปรัชญา เลี้ยงตน หรือ ฟลุ๊ค อายุ 21 ปี บุตรชาย หลังร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนชนิดลูกโม่ขนาด .38 กระหน่ำยิง จ.อ.มนตรี พุทธพฤกษ์ อายุ 26 ปี ตำแหน่ง จ่าช่างกล ประจำเรือหลวงล่องลม สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการและเป็นอดีตนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่น 48 เข้าที่บริเวณกลางกระหม่อมและลำตัวขวา รวม 2 นัดเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถผับแห่งหนึ่งในชุมชนบ้านเตาถ่าน ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 00.15 น.ของวันที่ 26 ก.ย.55 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ ได้เชิญคณะของกองทัพเรือ เข้ารับฟังคำชี้แจงสำนวนคดียังห้องสอบสวนคดี โดยมี พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฐปนัธ ชญาณพัฒน์ สว.สส. และ ร.ต.ท.นเรศ บุญที ร้อยเวรเจ้าของคดี ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ร่วมเข้าชี้แจ้งถึงความคืบหน้าล่าสุด
โดยมีการออกหมายจับพร้อมตั้งรางวัลนำจับ 3 หมื่นบาทกับนายปรัชญา เลี้ยงตน หรือฟลุ๊ค ที่เป็นผู้ลงมือยิงยังหลบหนีลอยนวล พร้อมได้รวบรวมพยานหลักฐานมัดตัวนายจารุ เลี้ยงต้น หรือผู้ใหญ่ทิ้ง ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากมีพยานเห็นเป็นตัวต้นเรื่องและพาบุตรชายหนีในคืนเกิดเหตุ
พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ในการติดตามจับกุมคนร้าย โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการรับสินบนในการล้มคดี ตามที่มีข่าวลือออกไป และขอให้ทางกองทัพเรือ จงมั่นใจในการทำงานของตำรวจ จะเที่ยงธรรม ซื่อตรง และจะเร่งลากคอมือปืนโหดรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ในเร็ววัน จึงฝากไปยังข้าราชการบางคน ที่ได้รับฝังข่าวสารมาผิด ๆ ถึงเรื่องการช่วยเหลือผู้ต้องหาล้มคดี ยอมรับไม่เป็นความจริง ซึ่งหวั่นอาจสร้างความบาดหมางใจให้กับหน่วยงานทั้งสองฝ่ายก็เป็นได้
พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ กล่าวว่า ในคดีนี้หวั่นจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่สร้างความหมางใจระหว่างตำรวจกับทหาร เนื่องจากผู้ตายเป็นทหาร แต่กลับถูกเด็กวัยรุ่นคราวลูกหยามศักดิ์ศรี ก่อนจะใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงฆ่าอย่างเหี้ยมโหด หลังคดีได้เงียบหายไป ได้มีข่าวลือหนาหู ถึงความไม่เป็นธรรมในคดี
เนื่องจากตัวนายปรัชญา เลี้ยงตน หรือฟลุ๊ค ได้ก่อเหตุยิงคนจนได้รับบาดเจ็บ ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า แต่ก็รอดเงื้อมมือกฎหมายมาได้ ทำให้ฝ่ายญาติผู้ตาย และเพื่อนทหาร หวั่นประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย จึงต้องเดินทางเข้ารับฟังความคืบหน้าในคดีด้วยตนเอง
จนขณะนี้ความเคลือบแครงใจได้กระจ่าง เมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันอย่างเต็มที่และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดเอาผิดมัดตัวสองพ่อลูกปืนโหดชนิดดิ้นไม่หลุด โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดไปรายงานให้กองทัพเรือและผู้บังคับบัญชารับทราบเพื่อสร้างความกระจ่างให้ข้าราชการทหารทุกนายเข้าใจเป็นแนวทางเดียวกัน
นอกจากนี้ทางฝ่ายทหารได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ สนธิกำลังเข้าร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการออกหาข่าวที่กบดานและไล่ล่าจับกุมตัวคนร้ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้