ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้การฯจังหวัดชลบุรี สั่งมือดีลงคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญ ผญบ.สัตหีบ ม.7 และบุตรชายปืนโหดระเบิดสมองจ่าช่างกล เรือหลวงล่องลม กองทัพเรือ ดับคาลานจอดรถผับ พร้อมออกหมายจับส่งชุดไล่ล่าตัวลูกชายที่ยังหลบหนี
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ห้องสอบสวนคดี สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้เข้าควบคุมคดี นายจารุ เลี้ยงตน หรือผู้ใหญ่ทิ้ง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านสัตหีบหมู่ที่ 7 และนายปรัชญา เลี้ยงตน หรือฟลุ๊ค อายุ 21 ปี บุตรชาย ที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงจ่าเอก มนตรี พุทธพฤกษ์ อายุ 26 ปี ตำแหน่ง จ่าช่างกล ประจำเรือหลวงล่องลม สังกัด กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ และเป็นอดีตนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่น 48 เข้าที่บริเวณกลางกระหม่อม และลำตัวขวา รวม 2 นัด เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถผับแห่งหนึ่ง ในชุมชนบ้านเตาถ่าน ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา
การประชุมมี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฐปนัธ ชญาณพัฒน์สว.สส. และร.ต.ท.นเรศ บุญที ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้นำสำนวนคดีเข้าชี้แจ้งในคืนเกิดเหตุ พร้อมนำหลักฐานอาวุธปืนขนาด .38 ชนิดลูกโม่ 2 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุประกอบกับพยานหลักฐาน ในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า ในคดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ตัวผู้ใหญ่บ้าน และบุตรชาย ได้ลงมือก่อเหตุยิงจ่าทหารเรือเสียชีวิต ชนิดไม่ยำเกรงกฎหมาย ต่อหน้าสายตานักท่องราตรีเกือบร้อยชีวิตที่มุงดูเหตุการณ์ จากประวัติผู้ลงมือยิงคือ นายปรัชญา เลี้ยงตน หรือฟลุ๊ค บุตรชายผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์มาแล้วหลายคดี แต่ก็พ้นเงื้อมมือกฎหมายมาได้ทุกครั้ง จึงถือเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม ในคดีนี้จากพยานหลักฐานคิดว่าเพียงพอเอาผิดกับนายปรัชญา หรือฟลุ๊ค ได้อย่างแน่นอน
เบื้องต้น ยังไม่เข้ามอบตัวหลบหนีคดี ขณะนี้ได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทยาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมส่งชุดปฏิบัติการไล่ล่า ส่วนนายจารุ เลี้ยงตน หรือผู้ใหญ่ทิ้ง ผู้ใหญ่บ้านสัตหีบหมู่ที่ 7 ได้เข้ามอบตัวกับร้อยเวรเจ้าของคดี พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ชักปืนออกมาขณะเกิดเหตุ จึงยังไม่พ้นผิดในคดีนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปคดีได้ในไม่ช้า จึงฝากไปยังญาติ และเพื่อนทหารของผู้เสียชีวิต ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยไม่ให้อิทธิพลเข้ามาครอบงำคดีอย่างแน่นอน