เชียงราย - เถ้าแก่ลำไยอบแห้งเชียงราย-พะเยารวมตัวเช่าบัสมุ่งหน้าเข้ากรุง เรียกร้องรัฐบาล “ปู” แก้ปัญหาลำไยล้นสต๊อก หลังยอมซื้อลำไยสดจากสวนในราคานำตลาดตามคำขอรัฐบาล แต่สุดท้ายกลับถูกลอยแพไม่หาตลาดให้ แถมพ่อค้าจีนกดราคาซ้ำ ครวญขอความช่วยเหลือนานนับเดือนยังไม่มีขยับ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการที่รับซื้อลำไยอบแห้งจากเกษตรกรใน จ.เชียงรายประมาณ 20 คน ได้เดินทางออกจากลานหน้าสหกรณ์การเกษตร จ.เชียงราย ต.สันทราย อ.เมือง ด้วยรถบัสจำนวน 1 คัน มุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วานนี้ (1 ต.ค.) ก่อนแวะรับผู้ประกอบการในท้องที่ อ.พาน จ.เชียงราย และพะเยาเพิ่มเติม เพื่อไปทวงคำตอบกรณีทางจังหวัดได้รับปากจะเสนอปัญหาเรื่องลำไยอบแห้งคงค้างในโกดังของผู้ประกอบการกว่า 5 ล้านกิโลกรัม ในวันนี้ (2 ต.ค.) เรียกร้องให้เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีโดยด่วน หลังจากผู้ประกอบการได้เคยรับซื้อลำไยสดจากเกษตรกรตามคำขอของหน่วยงานราชการเพื่อช่วยพยุงราคาลำไยสดให้สูงขึ้นในฤดูการนี้ไปแล้ว
ปัญหาเรื่องลำไยอบแห้งค้างสต๊อกดังกล่าวมีขึ้นหลังนายวรวัฒน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปประชุมร่วมกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ จ.เชียงรายช่วงต้นปี 55 โดยยืนยันว่าทางเครือซีพีจะรับซื้อลำไยอบแห้งกว่า 60,000 ตันเพื่อส่งไปยังประเทศจีน
เมื่อถึงฤดูเก็บผลผลิตราวเดือน พ.ค.-ก.ค. 55 ราคาผลผลิตลำไยตกต่ำ ทำให้ทางหน่วยงานของรัฐทั้งจังหวัด สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย สำนักงานเกษตร จ.เชียงราย เจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการให้รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการให้ซื้อนำตลาดกิโลกรัมละ 25 สตางค์ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ประกอบการต้องรับซื้อเกินประมาณ 1 บาท หลังรับซื้อลำไยตามข้อตกลงก็เกิดลำไยล้นสต๊อกแต่กลับไม่มีตลาดระบาย
ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการเคยไปชุมนุมเรียกร้องที่ศาลากลาง จ.เชียงรายหลายครั้งเพื่อขอให้รัฐบาลช่วยเหลือด้วยการชดเชยราคาจากที่พ่อค้าจีนกำหนด หรือให้หาตลาดให้โดยขอให้นำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีมาร่วม 1 เดือน แต่ก็ไม่มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้อง
นายราชารัก มาสมจิต ผู้ช่วยเลขานุการชมรมฯ กล่าวว่า พวกเราจำเป็นต้องเรียกร้องเพราะในช่วงเก็บผลผลิตถ้าปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดก็คงไม่มีปัญหา เพราะเมื่อซื้อในราคาใดเราก็ไปคำนวณจากราคารับซื้อจากพ่อค้าจีนได้เลย แต่ครั้งนี้เราซื้อในราคาสูงเพื่อช่วยรัฐบาลและเกษตรกรชาวสวน แต่เมื่อช่วยแล้วพวกเราก็เดือดร้อน เมื่อเรียกร้องให้นำเข้าไปแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็ไม่ดำเนินใดๆ ยืดเยื้อมานานจึงต้องพากันไปที่ทำเนียบรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการได้ประชุมและมีเนื้อหา 3 ข้อ คือ 1. ชมรมฯ จะประสานกับผู้ประกอบการทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือเพื่อเคลื่อนไหวไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ 2. ผู้ประกอบการมีกำหนดจะเดินทางไปชุมนุมเรียกร้องที่กรุงเทพฯ เพื่อพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ 3. เรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณชดเชยราคาลำไยอบแห้งให้ผู้ประกอบการเกรดเอเอกิโลกรัมละ 20 บาท เกรดเอ 15 บาท และเกรดบี 10 บาท จากราคาที่ขายตามท้องตลาด
เพราะราคาต้นทุนอยู่ที่เกรดเอเอกิโลกรัมละ 82 บาท เกรดเอ 38 บาท และเกรดบี 22 บาท หรือหากจะมีการหาตลาดรับซื้อลำไยอบแห้งบรรจุกล่องก็ขอให้ได้เกรดเอเอกิโลกรัมละ 85 บาท เกรดเอ 45 บาท และเกรดบี 25 บาท เนื่องจากในปัจจุบันเอกชนจีนรับซื้อลำไยอบแห้งในราคาต่ำเกรดเอเอกิโลกรัมละ 65-68 บาท เกรดเอ 32-38 บาท และเกรดบีเพียง 18-20 บาท ซึ่งไม่สามารถขายให้ได้เพราะจะขาดทุนหนัก