ฮือฮาแฝดสยามคู่ใหม่ที่พิษณุโลก หน้าอก-ท้องติดกัน ล่าสุดส่งเข้าศิริราชเตรียมผ่าตัดแล้ว

พิษณุโลก - ฮือฮา! แฝดสยามพิษณุโลก มีร่างกายตั้งแต่หน้าอก-ท้องติดกัน และหัวใจดวงเดียวกัน แรกคลอดน้ำหนัก 4,400 กรัม แพทย์ยันเบื้องต้นร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี และล่าสุดส่งตัวเข้า รพ.ศิริราช เตรียมผ่าตัดแล้ว ขณะที่ผู้เป็นพ่อตั้งชื่อแล้ว “ด.ญ.สุจิตรา และ ด.ญ.สุมิฌา”

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณณุโลก แจ้งว่า นางโสภา โป๊ะขุนทอง อายุ 34 ปีเป็นชาวบ้านหมู่ 6 ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก ได้คลอดแฝดสยาม และนอนพักฟื้นร่างกายที่ตึกสูติ-นารี รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.55) โดยแฝดสยามที่คลอดนั้น สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ มีน้ำหนัก 4,400 กรัม ล่าสุดโรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดต่อที่โรงพยาบาลศิริราชแล้ว

นายแพทย์สมชาย อาจอง แพทย์โรงพยาบาลพุทธชินราช ที่ดูแลนางโสภา กล่าวว่า ทารกแฝดสยามมีร่างกายที่สมบูรณ์ น้ำหนัก 4,400 กรัม ช่วงที่นางโสภา มาฝากครรภ์นั้น แพทย์อุตร้าซาวด์ดูก็พบว่า มีเด็กแฝดอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะมีหน้าอกติดกัน ตรวจสอบเบื้องต้น เด็กทั้งคู่มีหัวใจดวงเดียวกัน แต่อวัยวะส่วนอื่นแยกจากกันตามปกติ ซึ่งแพทย์พิจารณาแล้วควรที่จะส่งไปรักษาที่ รพ.ศิริราช เพื่อตรวจสอบอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อช่วยผ่าตัดต่อไป

ด้านนางโสภา บอกว่า ตนอุ้มท้องมานานถึง 9 เดือนตามปกติ แล้วแพทย์ได้นัดคลอดบุตรในวันที่ 1 ต.ค.55 แต่เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 27 ก.ย.55 ที่ผ่านมา กลับเกิดเจ็บท้องหนัก จึงได้มาโรงพยาบาลพุทธชินราช พร้อมนายเวียง สามี กระทั่งเวลา 22.00 น.แพทย์ก็ได้ทำการผ่าตัดทำคลอด เนื่องจากท้องใหญ่มาก และเมื่อผ่าตัดออกมาปรากฏว่า ทารกเป็นเด็กเพศหญิงแฝด หน้าอกจนถึงท้องติดกัน หลังจากนั้นตนเองก็ได้เป็นลม ไม่รู้สึกตัวอีกเลย กระทั่งฟื้นขึ้นมาก็พบว่า ลูกสาวฝาแฝดของตนเองนั้นได้อยู่ในห้องไอซียู แพทย์เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้แพทย์บอกว่า จะส่งฝาแฝดไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราชต่อ

“ฉันไม่มีพันธุ์กรรมบุตรแฝด แต่ฝ่ายสามีมีญาติเป็นฝาแฝด สำหรับฉันเองมีบุตรมาแล้ว 2 คน คือ ด.ญ.สุนิษา โป๊ะขุนทอง คนโตอายุ 13 ปี และ ด.ช.สรยุทธ โป๊ะขุนทอง อายุ 8 ปี และไม่คิดว่าท้องนี้จะเป็นลูกแฝดแต่อย่างใด ทราบว่า นายเวียง สามี ตั้งชื่อลูกสาวแฝดสยามแล้ว คือ ด.ญ.สุจิตรา โป๊ะขุนทอง และ ด.ญ.สุมิฌา โป๊ะขุนทอง ก็ไพเราะดี ฉันเองอยากให้แพทย์ช่วยเหลือผ่าตัดลูกสาวฝาแฝดสยามของฉันเองให้เป็นปกติเหมือนคนทั่วและมีชีวิตทั้งสองคน แต่ถ้าหากคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไป ก็ต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของเขา”