กาญจนบุรี - รอง ผบช.ก.สนธิกำลังกว่า 100 นาย นำหมายค้นตรวจสอบเหมืองแร่เมืองกาญจน์ หลังได้รับการร้องเรียนจาก อ.อ.ป.ว่า มีการตัดโค่นต้นไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต พบหลักฐานจำนวนมาก พร้อมแจ้งข้อหา ผจก.เหมือง และบริษัทฯ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ และตรวจอายัดรถแบ็กโฮ 3 คัน รถตักล้อยาง 2 คัน และรถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน เอาไว้ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ก.ย.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์เดช กมลบุตร รอง ผกก.กก.5 บก.ปทส. พ.ต.ต.พรเทพ จันทรบ้าน สว.กก.5 บก.ปทส. และกำลัง ตร.กก.5 บก.ปทส. พร้อมนำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1367/2555 และหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1368/2555 เดินทางไปที่ สภ.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เพื่อวางแผนเข้าตรวจค้นภายในเหมืองแร่ควอร์ตซ์ 2 จุด บนเนื้อที่ 212 ไร่ และ 214 ไร่ ของบริษัททรัพย์ยากร อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 88 หมู่ 13 ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำโดย นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) พ.ต.อ.วชิระ ลภเลิศ ผกก.สภ.เลาขวัญ พ.ต.ท.ณรงค์เวช โอนสูงเนิน รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ต.กาจภณ ปฐมัง สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี นายรัตนชัย ศรีบุญ เจ้าหน้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เข้าร่วมประชุมวางแผนในการตรวจค้น โดยมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานสนธิกำลังกันกว่า 100 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการตรวจค้น โดยการประชุมวางแผนใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ และแบ่งกำลังออกเป็นสองชุดเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละจุด
โดยชุดแรกมี พล.ต.ต.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้าชุด พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 1367/2555 เดินทางเข้าตรวจสอบ เหมืองแร่ไม่มีเลขที่ หมู่ 13 ต.ทุ่งกระบ่ำ เนื้อที่ 214 ไร่ ชุดที่สอง มีนายบุญสืบ เป็นหัวหน้าชุด พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 1368/2555 เดินทางเข้าตรวจสอบเหมืองแร่ เลขที่ 88 หมู่ 13 ต.ทุ่งกระบ่ำ โดยเหมืองแร่ทั้ง 2 แห่งเป็นของบริษัททรัพย์ยากร อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด มีนายบุญช่วย ยงยุทธสุทธิการ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/32 หมู่ 10 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นผู้จัดการเหมืองแร่ทั้งสองแห่ง
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงเหมืองแร่ทั้ง 2 แห่ง จึงได้แสดงหมายค้น จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ของเหมืองแร่เป็นผู้นำทางในการตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกตรวจค้นตามหน้าที่ที่รับผิดชอบตามที่ได้วางแผนเอาไว้
จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่พบว่า ภายในเหมืองแร่ทั้ง 2 แห่ง มีการแผ้วถาง และโค่นต้นไม้เพื่อทำเส้นทางให้รถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าไปขนย้ายแร่ จากชายเขาไปถึงยอดเขา และโดยรอบภูเขาด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ทรัพยากรป่าไม้เสียหายเป็นจำนวนมาก และจากการสอบถามนายบุญช่วย ผู้จัดการเหมืองแร่ พบว่า บริษัทดังกล่าวไม่มีเอกสารใบอนุญาตในการตัดไม้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาต่อนายบุญช่วย และบริษัทดังกล่าวตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจอายัดรถแบ็กโฮ จำนวน 3 คัน รถตักล้อยาง จำนวน 2 คัน และรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 1 คัน เอาไว้ตรวจสอบ
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.เปิดเผยว่า สาเหตุที่มาตรวจสอบเหมืองแร่ทั้งสองแห่ง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ว่า เหมืองแร่ได้ทำการแผ้วถางตัดไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการตรวจสอบพบว่า มีการนำไม้มาแปรรูปเพื่อทำเป็นบ้านพักอาศัยภายในเหมืองแร่จำนวนหนึ่ง และยังพบว่า ทางเหมืองแร่ได้นำไม้ไปเรียงติดต่อกันเพื่อกั้นไหล่ทางขึ้นเขา และจากการตรวจสอบพบว่า เหมืองแร่ดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตในการตัดไม้แต่อย่างใด ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ชัดเจน
แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าการตรวจสอบต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง เนื่องจากพื้นที่เหมืองแร่ทั้งสองแห่งนั้นกว้างมาก และหลังจากแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะลงบันการตรวจสอบเพื่อรายงานให้ศาลจังหวัดกาญจนบุรีทราบต่อไป