“เฉลิม” นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร. ปัดยัดวาระแต่งตั้ง “คำรณวิทย์” นั่งเก้าอี้นครบาลเต็มตัวแล้วโยก “วินัย” ไปภาค 1 แทน ยันต้องดูเรื่องความเหมาะสม กฎหมายและระเบียบประกอบด้วย ส่วนวาระพิจารณานับวันทวีคูณ “ศรีวราห์” เลื่อนไปเป็นวันที่ 15 มิ.ย.นี้
วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า วันนี้จะมีการพิจารณาเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือ กรณีของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. ในเรื่องการนับวันทวีคูณ และเพิ่มกำลังพล ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง ผบช.น.และการจะแต่งตั้งใครแทน พล.ต.ต.ศรีวราห์ คงไม่มีต้องรอให้การประชุมแล้วเสร็จก่อน เนื่องจากคราวที่แล้วนายวิษณุ เครืองาม ก.ตร.บอกว่า หากทาง ก.ตร.ออกกฎระเบียบดังกล่าวจะก้าวล่วงอำนาจคณะกรรมการพิจารณาบําเหน็จความชอบสําหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.บ.จ.ต.) ไม่ได้ ซึ่งตอบไปแล้วว่าเป็นอำนาจของ ก.ตร.ต้องพิจารณาเหตุผลเพื่อหาข้อยุติ หากได้ข้อยุติวันนี้ก็จะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ หากมีตำแหน่งว่างเกิดขึ้นก็อยู่ที่ดุลพินิจของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.จะเป็นผู้มีอำนาจการพิจารณาว่าจะให้ใครไปอยู่ในตำแหน่งใดที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ที่การประชุมครั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามการที่ดึง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง มาดำรงตำแหน่ง รรท.ผบช.น.เพราะสนิทกันหรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สมัยหนึ่งเคยเป็นครูฝึกปราบจลาจล จึงสนิทกับ นรต.รุ่น 27-30 เป็นส่วนใหญ่ แต่การสนิทของตนทำอะไรตามใจไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับหลักการและกฎเกณฑ์ของตำรวจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามการแต่งตั้ง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ขึ้นมาเพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาขัดขวางการประชุมสภาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การแต่งตั้ง พล.ต.ต.คำรณวิทย์นั้น ผบ.ตร.เป็นคนพิจารณาแต่งตั้งเอง ส่วนการเมืองไม่ได้สั่งมาอย่างแน่นอน
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า กรณีของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ นั้นค้างคาเกินกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งทำให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์เสียสิทธิ และขอย้ำอีกครั้งว่าตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างแน่นอน ถ้า ก.ตร.มีมติอย่างไรก็จบ ถ้าหาก พล.ต.ต.ศรีวราห์ไม่ได้เป็น ผบช.ภ.1 แล้วจะให้ไปดำรงตำแหน่งอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับ ผบ.ตร.เห็นว่าเหมาะสมที่ไหนก็ได้ ตนไม่ขัดข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ก.ตร.ได้พิจารณากรณี พล.ต.ต.ศรีวราห์ อย่างกว้างขวาง โดยมีการหยิบยกผลการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ และกรณีการทำบันทึกขออนุมัติให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ที่ทำโดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ในสมัยเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. มาพิจารณา แต่เนื่องจากทั้ง พล.ต.อ.สถาพร และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ติดราชการไม่ได้เข้าร่วมประชุม จึงรอทั้งคู่มาชี้แจง จนกระทั่งเวลา 11.45 น. การประชุม ก.ตร.ยุติลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร. มีภารกิจสำคัญในช่วง 11.39 น.และ 12.15 น. ทำให้ ก.ตร.ครั้งนี้ต้องจบลงอย่างรวดเร็ว แต่มีการนัดหมายประชุมพิจารณา เรื่อง พล.ต.ต.ศรีวราห์ ต่อในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2555 วันที่ 15 มิถุนายน 2555
ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า ก.ตร.อยากฟังข้อเท็จจริงจากปากของพล.ต.อ.สถาพร และพล.ต.อ.สุวัฒน์ อีกครั้ง ในฐานะผู้ทำสำนวนการสอบสวนการนับระยะเวลาวันทวีคูณ จึงขอเลื่อนการพิจารณาไปในวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ซึ่งได้แจ้งที่ประชุมไปแล้ว ว่ามีการรายงานเป็นเอกสารมาหมดเลย ลงมติเลยก็ได้ แต่เมื่อ ก.ตร.อยากฟังก็ให้ฟัง ไม่เป็นไร ซึ่ง พล.ต.อ.สถาพรรายงานมาอย่างที่ทุกคนรู้ว่าไม่มีสิทธินับอายุราชการทวีคูณเนื่องจากไม่ได้ไปปฏิบัติราชการอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวย้าย พล.ต.ท.วินัย เป็น ผบช.ภ.1 และ ให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์มาเป็น ผบช.น.นั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดกันเลย รวมทั้งต้องดูเรื่องความเหมาะสม กฎหมาย ระเบียบประกอบด้วย คือ อยู่ที่ความเหมาะสม อยู่ที่สถานการณ์ ยังไม่อาจตอบได้วันนี้เวลานี้ และขอหารือกับผู้บริหารของ ตร. รอง ผบ.ตร.ทุกๆ คนก่อนว่าคิดเห็นอย่างไร ซึ่งตัดสินใจคนเดียวไม่ดี