รองนายกฯ เรียกประชุม ก.ตร.พรุ่งนี้ วาระสำคัญพิจารณาเรื่องปัญหาการนับอายุราชการทวีคูณของ “พล.ต.ต.ศรีวราห์” ที่ยังคาราคาซังอยู่ เชื่อ ไม่มีสอดไส้แต่งตั้ง ผบช.ภ.1-ผบช.น.
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 13.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ครั้งที่ 9/2555 โดยมีวาระที่สำคัญต่อจากครั้งที่ 8 คือ การพิจารณาเรื่องปัญหาการนับอายุราชการทวีคูณของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.เมื่อครั้งไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 และวาระการกำหนดตำแหน่ง พนักงานสอบสวน ตามที่ศาลปกครองพิพากษา เพื่อสิทธิประโยชน์ของพนักงานสอบสวนในเรื่องของเงินเพิ่มสายวิชาชีพ การกำหนดสายการบังคับบัญชา การเลื่อนยศตามลำดับชั้นโดยไม่ข้ามสาย และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
สำหรับการพิจารณาการนับอายุราชการทวีคูณ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้เสนอต่อที่ประชุม ก.ตร.ไปแล้ว ว่า ได้ยึดผลสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มี พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน สรุปผลการสืบสวนสอบสวนว่า ไม่สามารถนับอายุราชการทวีคูณ ให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ ได้ เนื่องจาก พล.ต.ต.ศรีวราห์ ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติราชการแบบครั้งคราวไม่ใช่ประจำ โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผช.ผบ.ตร.(ยศและตำแหน่งสมัยนั้น) เป็นผู้ทำบันทึกขออนุมัติให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ โดยการประชุมในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุม ก.ตร.จะรับฟังข้อมูลจากนายตำรวจทั้งสอง เพื่อมาประกอบการพิจารณาและลงมติต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ในวันพรุ่งนี้จะสามารถพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง พล.ต.ต.ศรีวราห์ ได้แล้วก็ตาม ก็จะไม่มีวาระการแต่งตั้ง ผบช.ภ.1 และ ผบช.น.แม้จะสามารถกระทำได้ แต่ตามประเพณีปฏิบัติจะไม่ทำกัน เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งข่าว หาก ก.ตร.ไม่นับอายุราชการทวีคูณให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ จะใช้ช่องทางกฎหมายในการฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยเตรียมฟ้องต่อศาลปกครองกลางขอไต่สวนฉุกเฉิน ตาม ม.49 ว่าด้วยคำสั่งทางปกครองโดยมิชอบ และฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 เนื่องจากเรื่องนี้ใช้เวลาในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงใช้เวลานานเกือบ 2 ปี และตั้งข้อสังเกตว่า ยังมีข้าราชการตำรวจที่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยการได้อายุราชการทวีคูณ เนื่องจากไปปฏิบัติหน้าที่ชายแดนใต้โดยมีขั้นตอนการขอตัว และปฏิบัติหน้าที่เหมือน พล.ต.ต.ศรีวราห์ นับสิบราย อย่างกรณีของ พล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ ได้สิทธิทวีคูณ เป็น ผบก.ยุทธศาสตร์ บช.ภ. 3
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ มองว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้รับการปฏิบัติสองมาตรฐานจากผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่โดนร้องเรียนนั้น เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นพนักงานสอบสวนคดี รีสอร์ทบุกรุกพื้นที่ป่าใน จ.กาญจนบุรี สมัยที่ดำรงตำแหน่ง รองผบช.ก.และเมื่อครั้งที่ พล.ต.ต.ศรีวราห์ ดำรงตำแหน่ง ผบก.สปพ.(191) ได้ดำเนินการจับกุมวิทยุชุมชนเถื่อนของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงอาจเป็นเหตุให้ถูกเอาคืน
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ศรีวราห์ ได้ทำหนังสือบันทึกข้อเท็จจริงและลำดับเหตุการณ์ เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการเป็นทวีคูณในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึง ก.ตร.ทุกท่าน ผ่าน ผบช.ก.เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาด้วย เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาในที่ประชุมด้วย
