เชียงราย - กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดห้องอบรมเข้มผู้ประกอบการเชียงรายเดินหน้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว รับการเติบโตพื้นที่ชายแดน-กรอบข้อตกลงระหว่างประเทศ ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ล่าสุดมีมากกว่า 3 พันราย แต่อยู่ในระดับแค่พันกว่ารายเท่านั้น
วันนี้ (27 ก.ย.) นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาอุตสาหกรรมสีเขียวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ห้องประชุมเชียงรุ้ง โรงแรมริมกกรีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย โดยมีนายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อุตสาหกรรม จ.เชียงราย นำหน่วยงานราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังกว่า 500 คน
นายสมชายกล่าวว่า การพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว หรือได้มาตรฐานถือว่ามีความสำคัญ เพราะปัจจุบันมีข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศมากมายกำหนดมาตรฐานสินค้า ขณะเดียวกันยังลดต้นทุน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
สำหรับ จ.เชียงรายถือเป็นเมืองที่มีการเกษตรอุดมสมบูรณ์ที่สุดในภาคเหนือตอนบน โดยมีโรงสีข้าวตั้งอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกันยังเป็นประตูสู่สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับความอุดมสมบูรณ์
ด้านนายเกรียงไกร วีระฤทธิพันธ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปในพื้นที่ประมาณเกือบ 3,000 แห่ง แต่ที่จดทะเบียนประเภท 3 หรือขออนุญาตในระบบมีประมาณ 1,000 กว่าราย ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็ก เช่น โรงน้ำแข็ง โรงน้ำ โรงสี ฯลฯ กรณีของโรงสียังลดลงด้วย จากเดิมในอดีตมีนับร้อยแห่ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 40 กว่าแห่งเพราะได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำ
นายเกรียงไกรกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะสังเกตว่าในอดีตโรงงานต่างๆ จะอยู่ห่างไกลชุมชนจึงไม่ค่อยมีปัญหามากนัก แต่ปัจจุบันชุมชนขยายตัว การคมนาคมคับคั่ง มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากขึ้น ประชากรก็มากขึ้น ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องมีการปรับตัว
อีกทั้งในพื้นที่ยังเป็นโรงงานที่อยู่ในระดับที่ 1-2 หรือไม่ถึงกับเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายซับซ้อน แต่ก็จำเป็นต้องพัฒนาและปรับตัว เพราะในอนาคตคาดว่าจะมีการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะการขยายชุมชนอันเกิดจากความเจริญของบ้านเมืองและการขยายตัวทางเศรษฐกิจชายแดน
“กรณีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.เชียงของ ซึ่งมีกระแสเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนนั้น เดิมมีกลุ่มทุนจีนที่ต้องการจะเข้ามาลงทุน แต่ก็ไม่มีความชัดเจนทั้งเรื่องกลุ่มผู้ลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ ฯลฯ รวมทั้งอาจเกิดจากการปั่นราคาที่ดินของกลุ่มทุนด้วย แต่ในอนาคตก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นการเตรียมตัวสู่อุตสาหกรรมสีเขียวจึงมีความจำเป็น” นายเกรียงไกรกล่าว