xs
xsm
sm
md
lg

สลดใจ! แม่ขะแมร์วัยรุ่นปูกระดาษเอาลูกน้อยนอนกองบนพื้นดินพนมมือขอทานค่านม!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูมิภาค - สลดใจ แม่ขะแมร์วัยรุ่นใช้กระดาษแข็งโปสเตอร์โฆษณาปูพื้น เอาลูกน้อยอายุ 1 เดือน นอนกองบนพื้นดิน มีลูกอีกคนนั่งเฝ้า ยกมือพนมไหว้นั่งขอความเมตตาจากคนไทยผู้ใจบุญ ทำทานเงินเป็นค่านมเลี้ยงลูก ท่ามกลางเมฆครื้ม กับละอองฝน

4 ภาพชีวิตที่เศร้าสลดใจนี้ เกิดขึ้นเมื่อมีผู้หญิงขะแมร์เป็นแม่วัยรุ่น อายุราว 23 ปี ได้นำลูกน้อยอายุ 1 เดือน มีผ้าขนหนูห่อกาย มีกระเป๋าสะพายหนุนหัว เอานอนบนกระดาษแข็งโปสเตอร์โฆษณาปูพื้นรองรับไว้วางบนพื้นดินเปียกชื้น มีขวดนมกับร่มวางอยู่พร้อมถ้วยกระดาษไว้ใส่เงิน โดยมีเด็กหญิงพี่สาวลูกอีกคนอายุราว 3-4 ขวบนั่งเฝ้า เวลาผู้เป็นแม่ลุกไปทำธุระส่วนตัว กลายเป็นภาพสลดใจที่เกิดขึ้น ท่ามกลางสายตาของคนไทยนับร้อยคนที่เดินเข้าไปในตลาดนัดเกษตรวันศุกร์ ย่านหน้าศาลแขวง-หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี เพื่อซื้อหาสินค้าของกินของใช้ต่างๆ

ภาพที่เศร้าสลดใจนี้ ทำให้หลายคนก็แวะเข้าไปเอาเงินไปให้ทำทาน ด้วยความสงสารเด็กน้อย เป็นการช่วยค่าซื้อนมเลี้ยงเด็ก แต่สำหรับเด็กไทยที่พ่อแม่พามาตลาดนัดด้วย แล้วเดินผ่านมองเห็นภาพที่เศร้าสลดใจนี้ ก็ไม่มีใครจะรู้ได้ว่าเด็กคนไทยที่ได้เห็นภาพสลดใจนี้จะนึกคิดเช่นไรกับสิ่งที่ได้เห็นนั้น...

ภาพสังคมเศร้าสลดใจเช่นนี้ มักเกิดขึ้นในสังคมจังหวัดชลบุรี เมืองท่องเที่ยว เมืองเศรษฐกิจ และมักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยไม่มีผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะช่วยขจัดภาพที่น่าสงสารเช่นนี้ออกไปเสียโดยไว จะด้วยการเข้าช่วยเหลือสงเคราะห์แม่วัยชาวขะแมร์วัยรุ่นนี้ให้พ้นจากภาวะตกระกำลำบาก หรืออื่นๆ ก็ตามแต่กรณี

ปัจจุบัน มีแรงงานชาวต่างชาติจากขะแมร์ จากพม่า มาทำงานอยู่ในชลบุรี และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกอยู่มาก ที่ชลบุรีไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่าปัจจุบันมีกันกี่หมื่นคน หรือถึงแสนคนเข้าไปแล้ว ? ด้วยหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตเท่านั้นที่จะทราบ เมื่อให้ใบอนุญาตทำงานแก่นายจ้างคนไทยแล้ว เวลาจะติดตามแรงงานเหล่านั้น จะมีวิธีทำได้อย่างไรก็ไม่มีใครทราบอีกเช่นกัน

เรื่องเช่นนี้วันหนึ่งจะเป็นภัยอันตรายอีกชนิดหนึ่งกับคนไทยเจ้าของบ้านได้ ดังที่มีบทเรียนเป็นตัวอย่างเกิดขึ้นไปแล้ว กรณีแรงงานชาวขะแมร์ยกพวกต่อยตีกับแรงงานคนไทยที่โรงงานแห่งหนึ่งที่พนัสนิคม ทั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไประงับเหตุ ก็ถูกเผารถด้วยเป็นตัวอย่างให้เห็น ถึงความใจโหดของแรงงานขะแมร์เหล่านี้ได้กระทำขึ้น ชนิดที่ไม่เกรงอกเกรงใจคนไทยใดๆ

แต่ที่สำคัญคือว่า เด็กๆ ที่เกิดจากพ่อขะแมร์กับแม่ขะแมร์นั้น ดังภาพที่ได้เกิดในจังหวัดชลบุรี หรือเกิดที่ในจังหวัดอื่นๆ พ่อกับแม่แรงงานขะแมร์จะพาเด็กๆ เหล่านี้ไปแจ้งเกิดที่ไหน อย่างไร ไม่มีใครทราบขั้นตอน เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานราชการหน่วยใด ก็ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ชัดออกๆ มา ทั้งเมื่อลูกๆ พวกแรงงานขะแมร์นี้เกิดเจ็บไข้ได้ป่วยจะทำอย่างไร และเด็กๆ ที่กำลังเติบโตต้องได้รับการศึกษาเข้าโรงเรียนหาความรู้ได้ที่ไหน และเด็กๆ ขะแมร์เกิดในไทยนี้จะถือสัญชาติอะไร?

ส่วนที่สำคัญมากขึ้นไปก็คือ พวกแรงงานขะแมร์ และพม่าเหล่านี้ มิได้เป็นผู้มีการศึกษาพอสมควร ทั้งไม่รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของคนไทย แรงงานต่างชาติทั้งขะแมร์ และพม่านี้ จึงไม่ค่อยจะมีความเกรงอกเกรงใจคนไทยเท่าใดนัก

สำหรับชีวิตเศร้าของแม่วัยรุ่นชาวขะแมร์ลูก 2 นี้ ต้องมานั่งพนมมือขอความเมตตาขอทานค่านมเลี้ยงเด็กน้อยนี้ จากการสอบถามทราบเพียงว่า สามีเป็นคนขะแมร์เช่นกัน มารับจ้างทำงานอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งในชลบุรี จึงได้ส่งเงินให้ 50 บาท ไว้ไปซื้อนมเลี้ยงเด็ก ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็ช่วยกันคนละ 10 บาท 20 บาท จากนั้นแม่ขะแมร์วัยรุ่นได้ใช้โทรศัพท์มือถือโทร.ติดต่อกับบุคคลที่อยู่ภายนอกบริเวณตลาดสด และอุ้มลูกน้อยคนเล็กไว้ในอ้อมแขนเดินออกจากตลาดนัด โดยมีเด็กหญิงผู้เป็นพี่เดินตามไป

ส่วนบรรดาขอทานขะแมร์คนอื่นๆ ที่มีอยู่ในลาดนัดเกษตรยามเช้าแห่งนี้ อีกสามสี่คนก็เริ่มทยอยหายไป จากการสังเกตพบว่ามี “ขาใหญ่”ที่ไม่รู้ว่าเป็นคนไทย หรือคนขะแมร์มาสังเกตการณ์เพื่อให้ความช่วยเหลืออยู่ โดยนั่งอยู่บนเบาะรถจักรยานยนต์ และใช้โทรศัพท์มือถือคอยถ่ายภาพความเคลื่อนไหวในบริเวณตลาดนัดด้วย น่าจะเป็นพฤติกรรมของ “พวกขาใหญ่” คอยให้ความคุ้มครองก็อาจเป็นได้

ปัญหาของพวกแรงงานขะแมร์ และพม่า และเด็กๆ ลูกของแรงงานต่างชาติเหล่านี้ กำลังเป็นปัญหาใหม่ที่เกิดในชุมชนของสังคมตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย มีปัญหาหลากหลายที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ดังกรณีที่มีคนร้าย 2 คนเข้าจี้ร้านทองได้ทองไปน้ำหนัก 150 บาท ที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2555 ซึ่งต่อมาตำรวจจับได้นางมูซา คนพม่าพร้อมของกลาง ซึ่งเป็นเมียของนายโกศลพ่อค้าขายลูกชิ้นปิ้งคนกะเหรี่ยงมอญ ที่เป็น “ขาใหญ่” กว้างขวางในหมู่พวกแรงงานพม่า ต่อมา หลังตำรวจได้ออกหมายจับจึงทำให้ นายโกศล หรือวาน ได้เข้ามอบตัว เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 ส่วนเพื่อนอีกคนที่ร่วมกันก่ออาชญากรรมจี้ร้านทองหลบหนีไปได้

นี่คือชีวิตของพวกแรงงานพม่า หรือพวกกะเหรี่ยงมอญ กะเหรี่ยงพม่า ผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองมาได้ร่วมกันก่ออาชญากรรมขึ้น แน่นอนว่าอะไรๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ หากคนพวกนี้ตกงาน และไม่มีจะกิน และวันหนึ่งจะเกิดภัยอันตรายก่ออาชญากรรมขึ้น และทำให้คนไทยถึงขั้นเสียชีวิต

สำหรับภาพชีวิตสลดใจที่แม่วัยรุ่นขะแมร์หอบหิ้วลูกน้อย 2 คนออกมาตากแดดตากฝน พนมมือไหว้ขอความเมตตาให้ทำทานค่านมเลี้ยงลูกนี้ เป็นภาพสลดใจ เป็นปัญหาสังคมที่ควรได้รับการแก้ไข ก่อนที่ความยากจนไม่มีจะกิน ปากท้องต้องหิวโหย อาจทำให้วันหนึ่งแรงงานเหล่านี้อาจสิ้นคิด อาจจะก่ออาชญากรรมขึ้นได้ ส่วนพวก “ขาใหญ่” ผู้กว้างขวางสำหรับแรงงานต่างชาติที่มีอยู่นั้น ไม่น่าจะเกินสติปัญญาของผู้มีหน้าที่ที่จะเข้าแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ลุล่วงไป
................................

ภาพข่าวโดย ไท เอกราช / ภูมิภาค
กำลังโหลดความคิดเห็น