สาวนิรนามถูกฆ่าโหดหมกรีสอร์ต

พบศพหญิงไม่ทราบชื่อ ถูกฆ่าแทงคอทะลุ เสียชีวิตคารีสอร์ต ตร.เร่งไล่ล่าฆาตกรโหดมาลงโทษตามกฎหมาย!

วันนี้ (25 ก.ค.) เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.นิธิวัชร์ อัครสุพัฒน์กุล พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุหญิงถูกฆ่าตายหมกห้องพักภายในเทียนทะเลรีสอร์ท ถนนบางขุนเทียนชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รองผบก.น.9 พ.ต.อ.สุนทร โตรอด รองผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นห้องพักแบ่งให้เช่าแบบชั่วคราวและค้างคืนภายในรีสอร์ต จากการตรวจสอบห้องเลขที่ C8 พบศพผู้เสียชีวิต มีผ้าห่มลายดอกคลุมร่างอยู่บนที่นอน เมื่อเปิดออกดูเป็นศพหญิงนิรนาม อายุประมาณ 25-30 ปี ตัดผมรองทรงสั้น สูงราว 165 เซนติเมตร ผิวดำแดง มีรอยกรีดด้วยมีดจนเป็นแผลเป็นจำนวนมากที่ข้อมือซ้าย ทาเล็บมือ และเท้าสีดำ สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีขาวด้านหน้าสกรีนตัวอักษร CONSEPTION ไม่สวมเสื้อชั้นใน ท่อนล่างเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดที่อวัยวะเพศ ตามร่างกายพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่ลำคอด้านขวา เลือดทะลักเปรอะหมอน นอกจากนี้ รอบลำคอยังมีร่องรอยถูกบีบรัดจนเขียวช้ำ และรอยคล้ายถูกเตะที่สีข้างด้านขวา จากการตรวจสอบเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงขวดน้ำอัดลมถูกดื่มจนหมดแล้ว จำนวน 2 ขวด และแก้วเปล่า 2 ใบ วางอยู่บนโต๊ะ ที่บริเวณพื้นปลายเตียงนอน พบเสื้อคลุมสีดำ กระโปรงสั้นสีชมพู เสื้อชั้นในสีน้ำตาล และกางเกงในสีขาว ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ตายกองอยู่ 1 ชุด เบื้องต้นไม่พบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ หรือเอกสารสำคัญที่ระบุตัวตนของผู้ตายแต่อย่างใด โดยแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 10 ชั่วโมง

จากการสอบสวน น.ส.ชุติกาญจน์ ธัญญลักษณ์เมธี อายุ 30 ปี แคชเชียร์ของรีสอร์ต ให้การว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 18.00 น.เห็นผู้ตายนั่งรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ไม่ทราบทะเบียน มากับผู้ชาย โดยขอเปิดห้องพักแบบค้างคืน จากนั้นอีก 20 นาทีต่อมา รถกระบะคันดังกล่าวก็ขับออกจากรีสอร์ตไป แต่ไม่มีผู้ใดเอะใจ นึกว่าแขกคงไปทำธุระข้างนอกแล้วกลับมาพักใหม่ กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกัน กลับมีรถมอเตอร์ไซค์ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียนแบบผู้หญิง สีครีม มาจอดหน้าห้อง โดยไม่มีใครทราบว่า รถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวขับออกไปตั้งแต่เมื่อใด เพราะเป็นช่วงที่พนักงานรีสอร์ตเปลี่ยนเวรพอดี จนถึงวันนี้ เวลา 13.00 น.ซึ่งตนกลับมาเข้าเวรอีกครั้ง และได้เวลาเช็กเอาต์คืนห้อง จึงโทรศัพท์เข้าไปแจ้งแขก แต่โทร.เข้าไปกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับสาย เลยตัดสินใจให้พนักงานผู้ชายนำกุญแจสำรองไปไขตรวจสอบ พบศพนอนตายอยู่บนที่นอน ขณะที่แอร์ในห้องยังเปิดเย็นฉ่ำ

พล.ต.ต.รัษฎากร เปิดเผยว่า ผู้ตายน่าจะถูกคนรู้จักฆ่าตายในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพศพยังสดอยู่ แต่จะถูกข่มขืนด้วยหรือไม่ ต้องรอผลการผ่าชันสูตรจากทางแพทย์นิติเวชอีกครั้ง จากการสอบสวนพนักงานรีสอร์ตรายอื่นๆ ทราบว่า เคยเห็นผู้ตายมาใช้บริการห้องพักตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ก่อนน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่ไม่มีใครรู้จักผู้ตายมาก่อน ขณะที่ระบบการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ หรือรายชื่อแขก ก็ทำได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควร ส่วนกล้องวงจรปิด ก็เพิ่งมาเสียได้เพียง 2 วัน เบื้องต้นจึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกลงพื้นที่ไปแกะรอยหากล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้ายตามรูปพรรณของยานพาหนะที่พนักงานรีสอร์ทพอจดจำได้

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใดสงสัยว่าผู้ตายเป็นญาติ หรือรู้จักกันมาก่อน ขอความกรุณาติดต่อพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อแจ้งเบาะแสหาเกี่ยวกับตัวคนร้ายก่อนตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมา เมื่อเวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 ได้นำรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ติดแค็บที่กระบะหลัง หมายเลขทะเบียน ถนข 806 กทม.ต้องสงสัยเข้ามาตรวจสอบที่ สน.ท่าข้าม โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือของคนขับไปตรวจสอบ พร้อมทั้งได้เชิญผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว (ไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) มาสอบปากคำ

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งมาเปิดห้องพักเวลา 18.00 น.วันที่ 24 ก.ค.โดยได้เปิดห้องที่เกิดเหตุแบบค้างคืน ซึ่งจะหมดเวลา 12.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค.จากนั้นไม่นานก็ขับรถกระบะไปคืนญาติที่อาศัยอยู่ย่านบางบอน 1 ก่อนจะขับรถ จยย.ของตนเองเข้ามา ก่อนจะออกจากห้องที่เปิดไว้ในเวลาประมาณ 22.00 น.จึงทำให้ห้องดังกล่าวว่างลง

หลังจากนั้น ได้มีลูกค้าเป็นผู้ชาย กับผู้หญิง ได้โดยสารรถแท็กซี่สีชมพู ออกไปทางสีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับเข้ามา เมื่อส่งผู้โดยสารเสร็จ แท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับออกไป จากนั้นทางพนักงานต้อนรับก็ให้พักในห้องที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้เก็บเงินค่าห้อง แต่ทางพนักงานต้อนรับกลับไม่ได้นำเงินที่ได้จากชายที่มากับผู้ตายให้กับทางโรงแรม แต่ได้เก็บเงินไว้ใช้เองดังกล่าว พร้อมกันนี้ ผู้ตายยังได้สั่งเป๊ปซี่มาดื่มอีก 2 ขวด หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป