ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เพลิงไหม้ปริศนา “โกดังเก็บมันเส้น” กว่า 1.3 หมื่นตัน ของ “อคส.”ในโครงการรับจำนำ กลางเมืองโคราช เผยไฟระอุใต้กองมันฯ ต้องระดมรถตักขนมันออกมาก่อนเข้าฉีดน้ำดับไฟในโกดัง เบื้องต้นคาดสูญกว่า 600 ตัน แฉเป็นมันฯ ล็อตเจ้าปัญหาส่อทุจริตปลอมปน รมว.พาณิชย์นำ ตร.กองปราบบุกตรวจมาแล้ว ขณะเจ้าของโกดังกับผู้เช่าฟ้องกันนัว เหตุเบี้ยวจ่ายค่าเช่า ศาลชั้นต้นสั่งขนมันฯ ออกพร้อมจ่ายค่าเสียหาย แต่ยังฮึดสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์
วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.สมยศ นาชิน ร้อยเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บมันสำปะหลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ในบริษัท ซี.เอส.ปาร์ค จำกัด เลขที่ 5 หมู่ 2 ซอยรัตโนภาส ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิงจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง เข้าทำการสกัดเพลิง
ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นโกดังเก็บมันเส้น บริษัท ซี.เอส.ปาร์ค จำกัด พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากจากโกดังจำนวนมาก รถดับเพลิงกว่า 10 คัน พยายามฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้ลุกลามมากขึ้น ซึ่งการดับเพลิงค่อนข้างมีอุปสรรคเนื่องจากโกดังถูกปิดไว้อย่างมิดชิดแน่นหนา และไฟระอุอยู่ด้านล่างของกองมันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่ได้ทุบกำแพงเพื่อฉีดน้ำเข้าไปข้างใน พร้อมประสานเจ้าของโกดังมาเปิดประตูเพื่อเข้าไปดับเพลิงภายในโกดัง
ต่อมา นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยนายประชา ทองสุกโชติ ผู้ประสานงาน องค์การคลังสินค้า (อคส.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นตัวแทน อคส. และนายวีระศักดิ์ บุญเพลิง ทนายความ บริษัท ซี.เอส.ปาร์ค จำกัด ได้เดินทางมาดูจุดเกิดเหตุ และอำนวยการดับเพลิง
จากการสอบถามนายสำราญ สนั่นชาติ อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นคนเฝ้าโกดังเก็บมันดังกล่าวเล่าว่า เห็นกลุ่มควันเกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ซึ่งโกดังแห่งนี้เคยเกิดไฟลุกไหม้ลักษณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นได้ตักเอามันบริเวณที่ติดไฟออกมาจนหมด ซึ่งได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะมาเกิดเหตุซ้ำอีกโดยไม่ทราบสาเหตุว่าไฟไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ขณะที่ นายณรงค์ ปั้นนอก อายุ 35 ปี พนักงานดูแลลูกค้าทั่วไป ของบริษัท ซี.เอส.ปาร์ค จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีโกดังเก็บสินค้ากว่า 10 โกดัง ให้บริษัทต่างๆ เช่า ซึ่งโกดังที่เกิดเพลิงไหม้นี้มีนายสุเมธ หล่อรุ่งเรืองกุล เป็นผู้ทำสัญญาเช่า และได้ให้นางกัญญาภรณ์ เกิดทวี มาเช่าช่วงต่อเพื่อใช้เก็บมันเส้นของ อคส. โดยนำมันมาเก็บตั้งแต่ปี 2552 และ มาเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในวันนี้
ด้าน นายประชา ทองสุกโชติ ผู้ประสานงาน องค์การคลังสินค้า (อคส.) จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า โกดังเก็บมันเส้นดังกล่าวมีนางกัญญาภรณ์ เกิดทีวี เป็นผู้ทำสัญญาฝากเก็บ กับ อคส.จำนวน 13,421 ตัน ซึ่งเป็นมันเส้นในโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิต ปี 2551/52 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2552 จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีมันเส้นเสียหายประมาณ 5% หรือ ราว 650 ตัน เพราะไฟไม่ได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เป็นเพียงการไหม้ระอุจากข้างในเท่านั้น
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถตักขนมันฯส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายออกมาไว้ด้านนอกและเข้าไปทำการฉีดน้ำดับเพลิงที่ไหม้มันเส้นอยู่ด้านในโกดัง ขณะนี้ไฟดับหมดแล้ว แต่อาจเป็นเพราะมีกลุ่มควันจำนวนมากและเป็นแหล่งชุมชน จึงทำให้ประชาชนตกใจ แต่ความจริงมันเส้นไม่ได้ไหม้เสียหายอะไรมากนัก และมันเส้นทั้งหมดทางฝ่าย นางกัญญาภรณ์ ที่ทำสัญญากับ อคส.จะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่แล้ว
“ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้นั้นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะต้องเข้าตรวจพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป แต่มันฯ ที่ถูกเก็บไว้นานและเกิดความร้อนก็มีโอกาสเกิดการระอุขึ้นมาได้” นายประชากล่าว
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง ทนายความ บริษัท ซี.เอส.ปาร์ค จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้ให้นางกัญญาภรณ์ เกิดทวี เช่าโกดังเพื่อเก็บมันเส้นในราคาค่าเช่าเดือนละ 120,000บาท แต่ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2552 เป็นต้นมา นางกัญญาภรณ์ไม่ได้จ่ายค่าเช่ามาจนถึงปัจจุบัน ทางบริษัทฯ จึงยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้นางกัญญาภราณ์นำมันเส้นทั้งหมดออกไปจากโกดังพร้อมให้จ่ายค่าเสียหายและค่าเช่าที่ค้างอยู่ทั้งหมด ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินตามที่ทางบริษัทฯ ยื่นฟ้องไป แต่นางกัญญาภรณ์ได้ยื่นอุทธรณ์ ขณะนี้เรื่องจึงอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ และ มาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นดังกล่าวในเช้าวันนี้ (18 ก.ย.)
อนึ่ง โกดังเก็บมันเส้น โครงการรับจำนำมันปะหลัง ฤดูกาลผลิต ปี 2551/52 ของ อคส. ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ปริศนา ดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2555 ที่ผ่านมา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน, องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ และ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปราม ได้บุกเข้าตรวจค้นพบมันเส้นภายในโกดังมีปัญหาการปลอมปนจำนวนมาก เนื่องจากมันสำปะหลังมีลักษณะป่น เป็นสีน้ำตาลแดงคล้ายมีดินปลอมปนอย่างชัดเจน จึงสั่งอายัดไว้ตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งเจ้าของอ้างว่ามันสำปะหลังดังกล่าวถูกเก็บไว้นานจึงเสื่อมสภาพ