เพชรบุรี - พ่อที่ตามหาลูกชาย และลูกสะใภ้ชาวบ้านท่าไม้รวก ที่หายไปนานกว่า 3 ปี โร่ให้ข้อมูลแก่ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก หลังพบหลักฐานรถยนต์กระบะของบุตรชายจอดทิ้งอยู่ในบ้านร้างที่เมืองนนท์ วอนให้ตำรวจเร่งคดี และอยากได้ลูกคืนถึงแม้จะไม่มีชีวิตก็ตาม
เวลา 10.40 น.วันนี้ (17 ก.ย.) นายสว่าง นุ่มจุ้ย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ 6 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อม น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย อายุ 34 ปีบุตรสาว เข้าพบ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก และ พ.ต.ท.ชิ้น ช่อมาลี พนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่บุตรชาย คือ นายสามารถ นุ่มจุ้ย และบุตรสะใภ้ คือ น.ส.อรสา เกิดทรัพย์ ได้หายตัวไปตั้งแต่ปี 2552 และได้เคยมาแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่าไม้รวก เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.52 ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ไม่เคยมีวี่แววว่าจะได้พบ จนกระทั่งมีการรับทราบข้อมูลจากนายสุเทพ เลาหวัฒนะ ซึ่งเป็นพี่ชายของ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจว่ามีคนพบเห็นรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์-ทอง ทะเบียน บฉ 5960 เพชรบุรี ของนายสามารถ บุตรชายจอดอยู่ในบ้านเลขที่ 125/53 ซอยศิริโชติ กรุงเทพ-นนท์ ซอย 1 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยบ้านหลังดังกล่าวได้ปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 3 ปีแล้ว
กระทั่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบ ก็พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวจริง โดยมีสภาพจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ล้อรถยนต์ถูกถอดออกหายไปทั้ง 4 ด้าน ทะเบียนถูกถอดออก และพบหลักฐานหลายอย่าง จำพวกบัตรประชาชนของ น.ส.อรสา ลูกสะใภ้ ยังอยู่ภายในรถ และพบหมวกสานด้วยไม้ไผ่ที่มีลอยคราบบางอย่าง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคราบเลือดติดอยู่หลายแห่งถูกวางไว้ในรถยนต์กระบะคันดังกล่าวด้วย โดยรถยนต์กระบะ และสิ่งของที่พบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้นำไปไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อทำการตรวจสอบ
นายสว่าง เปิดเผยว่า ตนมั่นใจว่าลูกชาย และลูกสะใภ้ได้ถูกฆ่าตายทั้ง 2 คนแล้ว เนื่องจากมีคนยืนยันว่า คนที่สังหารลูกชายกับลูกสะใภ้ของตน คือ นายแพทย์คนหนึ่งกับภรรยาโดยการใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 2 เสียชีวิต ก่อนที่จำใช้รถแบ็กโฮตักดินแล้วนำร่างของทั้ง 2 ฝังลงดินบริเวณโคนต้นไผ่ท้ายบ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และยังบอกอีกว่า คนที่ขับรถยนต์ของบุตรชายตนมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็ยบุตรชายของนายแพทย์คนดังกล่าวอีกด้วย
นายสว่าง เปิดเผยต่อว่า รู้สึกเสียใจมากที่ทราบว่าลูกชาย และลูกสะใภ้ถูกฆ่าตายไปแล้ว สำหรับวันนี้ที่ได้เดินทางมาที่ สภ.ท่าไม้รวก เพื่อต้องการมาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าการสูญหายของบุตรชาย และบุตรสะใภ้ โดยต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด และอยากได้ลูกคืนถึงแม้ลูกจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่ก็ตาม แต่ขอลูกคืนเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก เปิดเผยว่า หลังจากวันนี้ได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะต้องประสานกับทาง สภ.เมืองนนทบุรีว่า จากการตรวจสอบรถยนต์และสิ่งของที่พบได้ผลประการใด และจะต้องตรวจสอบว่าบุคคลที่สูญหายอยู่ที่ใดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ส่วนกรณีที่ได้รับแจ้งว่ามีการซุกซ่อนศพไว้ในพื้นที่บ้านพักของนายแพทย์ที่ถูกกล่าวหานั้นยังไม่มีหลักฐาน หรือข้อเท็จจริงที่จะนำไปสู่การตรวจสอบได้ แต่ถ้ามีหลักฐานยืนยันก็จะต้องทำการขอหมายศาลเข้าไปตรวจสอบอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากกรณีดังกล่าวทางผู้เสียหายได้มีการติดตามมาเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว
สำหรับกรณีที่พบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์-ทอง ทะเบียน บฉ 5960 เพชรบุรีนั้น น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่หายตัวไปให้ข้อมูลว่า มีความคุ้นเคยกับนายสุเทพ เลาหวัฒนะ เนื่องจากได้พามารดามารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และได้พูดคุยกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.ย.55 ที่ผ่านมา นายสุเทพ ได้โทรศัพท์มานัด น.ส.วิมล ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อไปพูดคุยเกี่ยวกับคดีของน้องชายนายสุเทพ คือ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ที่มีการฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่ง น.ส.วิมล ได้เป็นพยานให้
โดยระหว่างพูดคุยกัน น.ส.วิมล ได้บอกว่า ตนก็มีเรื่องกลุ้มใจเหมือนกัน เพราะน้องชาย และน้องสะใภ้ได้หายตัวไปอย่างลึกลับมานานกว่า 3 ปีแล้ว พร้อมกับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว และเมื่อพูดถึงเรื่องนี้นายสุเทพก็ได้บอกว่า เคยพบเห็นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านเลขที่ 125/53 ซอยศิริโชติ กรุงเทพ-นนท์ ซอย 1 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นคันเดียวกันหรือไม่ แต่ถ้าอยากไปดูจะพาไป
ต่อมา วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพ ได้นัด น.ส.วิมล โดยมีเพื่อนร่วมงานอีก 2 คนไปด้วย โดยไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งพบว่าเป็นบ้านร้าง โดยนายสุเทพ ได้ไขกุญแจประตูพาเข้าไป โดยรถยนต์กระบะที่พบนั้น น.ส.วิมล มั่นใจว่าเป็นของน้องชายตนเองที่หายไปอย่างแน่นอน น.ส.วิมล จึงได้โทรศัพท์บอกนายสว่าง บิดาให้ทราบถึงกรณีที่พบรถคันดังกล่าว
ต่อมา วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจบ้านพักของนายแพทย์ที่ถูกกล่าวหาที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำเพชรบุรี ในพื้นที่ ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พบว่าภายในบ้านพักมีรถแบ็กโฮสีเหลืองขนาดใหญ่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน 1 คัน และรถแบ็กโฮสีเหลืองขนาดเล็กอีก 1 คันจอดอยู่บริเวณข้างคอกม้า โดยพื้นที่ด้านหลังพบว่าเป็นพื้นที่กว้างที่มีต้นไผ่ปลูกไว้เป็นจำนวนมาก