xs
xsm
sm
md
lg

พบศพที่ 2 ในไร่ “พ.ต.อ.นายแพทย์” ถูกฝังดินริมแม่น้ำเพชร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพชรบุรี - พบอีกศพที่ 2 ในพื้นที่ไร่ พ.ต.อ.นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ถูกฝังดินไว้ริมแม่น้ำเพชร ด้านดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับตำรวจ

หลังจากเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมโดย พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบก.สส.ภ.7 ผู้อำนวยการตรวจค้น พร้อมกำลังกว่า 200 นาย และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี ที่นำหมายศาลจังหวัดเพชรบุรีเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของ ของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ซึ่งอยู่บริเวณบ้านเลขที่ 65 และเลขที่ 225 หมู่2 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ซึ่งพบหลักฐานปืนสั้น ปืนยาว ขนาดต่างๆ รวม 42 กระบอก และจากการขุดพื้นที่บริเวณกลางไร่พบเศษกระดูกชิ้นส่วนโครงกระดูกของมนุษย์จำนวน 1 ร่าง ที่คาดว่าถูกหั่นศพแยกชิ้นส่วนแล้วนำใส่ถุงปุ๋ยมาฝังดินไว้บริเวณโคนกอไผ่กลางไร่ของนายแพทย์ ที่ขณะนี้โครงกระดูกที่พบได้ถูกนำส่งตรวจยังสถาบันติเวชเพื่อตรวจหา DNA ว่า เป็นโครงกระดูกของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรสา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยาที่สูญหายไปกว่า 3 ปีหรือไม่

สำหรับกรณีที่ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) นั้น พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ไม่ได้เดินทางมาเข้าพบต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก แต่อย่างใด ซึ่งได้รับข้อมูลว่า พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ได้โทรศัพท์ไปหา พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ขอเวลาในการเตรียมเอกสารการครอบครองอาวุธปืนมาแสดงเนื่องจากอาวุธปืนมีจำนวนมาก จึงไม่พร้อมที่จะเข้าพบในวันนี้ และยังไม่ระบุวัน และเวลาในการเข้าพบเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก วันใด

ส่วนนายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่สูญหายได้เดินทางไปที่สถาบันนิติเวชเพื่อตรวจ DNA แล้ว

โดยนายสว่าง เปิดเผยว่า ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่กับศพที่ขุดค้นพบภายในไรของนายแพทย์ แต่แนวทางในแผนที่ที่มีพยานบอกมานั้นใกล้เคียงกันซึ่งจะต้องทำการตรวจ DNA ดูก่อนว่าจะตรงกันหรือไม่

ส่วนบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ สภ.ท่าไม้รวก ต่างมีเหล่าบรรดาญาติๆ ของผู้สูญหายมานั่งรอ รวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนงที่ต่างมานั่งรอการเข้าให้ปากคำของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ แต่ก็ไม่มาตามนัด แต่มีชาวบ้านพบเห็นรถของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ขับวนเวียนอยู่ในพื้นที่ไร่ในเขตหมู่ 10 วังข้าวสาร ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

ต่อมา มีเจ้าหน้าที่ของ DSI นำโดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ และนายธงชัย สมบัติจิราภรณ์ ผอ.ส่วนรับเรื่องร้องทุกข์ และคณะ ที่เดินทางมายัง สภ.ท่าไม้รวก เพื่อดูพื้นที่หลังจากเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ได้เดินทางไปร้องทุกข์ขอพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษ

โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ เปิดเผยว่า อธิบดีสั่งตั้งคณะทำงานสืบสวนขึ้นเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อนทั่วไปของบุคคลทั้งสองเป็นการหายตัวไปจากการทำผิดทางอาญาหรือเปล่า เพราะการที่คนหายไปมีหลายสาเหตุ และหากการหายตัวไปนั้นเป็นเรื่องที่เกิดจากการทำผิดทางอาญา จะต้องดูว่ามีเหตุพิเศษตาม พ.ร.บ.การสืบสวนหรือไม่ ซึ่งประการสำคัญตามกฎหมายก็คือเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการผู้ใช้หรือเปล่า หรือว่ามีข้าราชการฝ่ายปกครองตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ต้องถูกกล่าวหาตามสมควรหรือเปล่า หรือเป็นกรณีที่ซับซ้อนต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนเป็นพิเศษหรือไม่ ซึ่ง DSI จะต้องมารวบรวมข้อเท็จจริงในสองประเด็นนี้ และวันนี้จะลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลด้วย

และในเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ปรีชา รอดคงที่ รอง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก นำกำลังเข้าไปที่ไร่ยูคาลิปตัส หมู่ 10 บ้านวังข้าวสาร ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เชิญตัวนายกะลา แรงงานชาวพม่าลูกจ้างคนสนิทของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ หลังได้รับข้อมูลจากญาติผู้เสียชีวิตว่าอาจเป็นเบาะแสสำคัญเนื่องจากทำงานในไร่ให้แก่ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ มานาน

เมื่อไปถึงพบหญิงเลี้ยงวัวอยู่ในพื้นที่สอบถามทราบว่า เป็นภรรยาของนายกะลา เจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัว และรับรองความปลอดภัยหญิงสาวดังกล่าวจึงยินยอมบอกว่านายกะลาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ายูคาลิปตัส โดยนายกะลา ยินยอมออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินมาหาด้วยท่าทางไม่สมประกอบ ข้อมือแขนขวาขาด เดินขากะเผลก และนายกะลา มีลักษณะท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ตัวสั่น พูดจาไม่เป็นประโยค แววตาลุกลี้ลุกลน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำ

นายกะลา เผยว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบตนเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) คุณหมอได้โทรศัพท์เข้ามาหาตน 3 ครั้ง อ้างว่าจะพาไปหลบซ่อนตัวที่กรุงเทพฯ ตนกลัวว่าคุณหมอจะพาไปทำอย่างอื่น เหมือนกับที่ตนเคยพบเห็น จึงหวาดกลัวมาก และเป็นห่วงลูก 2 คน และภรรยาที่กำลังตั้งท้องอีก 1 คน

ต่อมา เวลาประมาณ 17.00 น.หลังจากที่ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก ได้นำหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจค้นเพื่อหาซากศพในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.โดยได้ใช้รถแบ็กโฮขุดบริเวณสถานที่พบศพแรก แต่ไม่พบ จึงได้ย้ายสถานที่ไปขุดแหล่งใหม่ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน บริเวณตรงกลางระหว่างก่อไผ่ขนาดใหญ่ 2 กอ ริมคลองระบายน้ำ ริมแม่น้ำเพชรบุรี

หลังจากขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็ได้ขุดพบชิ้นส่วนของกระดูกที่คาดว่าเป็นกระดูกมนุษย์ถูกฝังอยู่ในดินลึกประมาณ 1 เมตร สร้างความตกตะลึงให้แก่บรรดาชาวบ้านที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก และให้รถแบ็กโฮหยุดการขุด หลังจากนั้น ตำรวจได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน จ.เพชรบุรี แพทย์โรงพยาบาลท่ายาง จ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด จาก กก.3 บก.สอ.บช.ตชด.นำโดย ร.ต.ต.เพิ่มพูน นาคขำพันธ์ รองสารวัตรงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.3 บก.สอ.บช.ตชด. มาตรวจวัตถุกระสุนปืนบริเวณที่พบศพด้วย

โดยเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดเพชรบุรี ได้นำชิ้นส่วนกระดูกที่ฝังอยู่ในดินออกมาซึ่งพบว่าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ และพบเศษชิ้นส่วนเสื้อสีน้ำเงินมีเบอร์ 20 ที่ยังเหลือซากอยู่ รวมถึงพบชิ้นส่วนกางเกงขาสั้นที่นายสว่าง นุ่มจุ้ย พ่อของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่สูญหาย ที่ได้เดินทางมาดูการขุดค้นหาศพที่ระบุว่าศพที่พบล่าสุดวันนี้น่าจะเป็นศพบุตรชายของตน เนื่องจากจำเบอร์หมายเลขที่ติดเสื้อ และกางเกง เจเจ ของบุตรชายที่เคยใส่อยู่เป็นประจำ

นอกจากนี้ ยังพบว่าที่หัวกะโหลกบริเวณขมับด้านซ้ายมีรอย 1 แห่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกอาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อตรวจเปรียบเทียบหา DNA ว่าจะตรงกับนายสว่าง นุ่มจุ้ย ที่มั่นใจว่าเป็นบุตรชายของตนเองอย่างแน่นอน





กำลังโหลดความคิดเห็น