บุรีรัมย์ - ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงนครราชสีมาตั้งฐานเติมสารฝนหลวงที่สนามบินบุรีรัมย์ เร่งปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือเยียวยานาข้าวเกษตรกรที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยงแห้งตาย และเพิ่มปริมาณน้ำในอ่าง หลังมีฝนตกน้อย น้ำกักเก็บในอ่างทั้ง 22 แห่งไม่ถึงร้อยละ 50 ขณะล่าสุดประกาศภาวะฝนทิ้งช่วงแล้ว 13 อำเภอ
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝนทิ้งช่วงที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังน่าห่วง ล่าสุดสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์จึงได้ประสานศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมามาตั้งฐานเติมสารฝนหลวงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก เพื่อเร่งปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่องมากขึ้น เพราะเหลือเวลาอีกเพียงเดือนเศษก็จะสิ้นสุดฤดูฝน เพื่อช่วยเหลือเยียวยานาข้าวของเกษตรกรที่ประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเหี่ยวเฉาใกล้แห้งตาย และเพิ่มปริมาณน้ำในอ่าง
หลังจากที่ช่วงนี้จังหวัดบุรีรัมย์ยังมีฝนตกน้อยและทิ้งช่วง ส่งผลน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ 22 อ่างทั้งจังหวัดมีปริมาณน้ำกักเก็บไม่ถึงร้อยละ 50 ของปริมาณความจุอ่างกว่า 289 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ายังไม่พ้นวิกฤต ขณะที่ จังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วงแล้ว 13 อำเภอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการตั้งฐานเติมสารฝนหลวงที่สนามบินบุรีรัมย์ตั้งแต่วันที่
6 ก.ย.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ได้ผลในระดับหนึ่งทำให้มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ส่งผลให้นาข้าวของเกษตรกรที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยงเริ่มฟื้นตัวแล้วกว่าร้อยละ 60 จากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานนาข้าวได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงกว่า 1 ล้านไร่
ด้านนายศานติ นึกชอบ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การตั้งฐานปฏิบัติการฝนหลวงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึกในครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง ทั้งในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ได้ ซึ่งจะมีการตั้งฐานเติมสารและปฏิบัติการบินทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นสุดฤดูฝน