สุรินทร์ - เมืองช้างฝนทิ้งช่วงแล้งวิกฤต ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว 9 อำเภอจาก 17 อำเภอ ขณะอ่างเก็บน้ำทั้ง 20 แห่งมีปริมาณน้ำต่ำสุดในรอบ 10 ปี เผยนาข้าวหอมมะลิได้รับผลกระทบ 1.7 ล้านไร่ คาดเสียหายสิ้นเชิงกว่า 3.7 แสนไร่
วันนี้ (21 ส.ค.) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดสุรินทร์เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือนครอบคลุมทั้ง 17 อำเภอ นาข้าวส่วนใหญ่ปลูกข้าวหอมมะลิประสบภัยแล้งกว่า 1.7 ล้านไร่ คาดว่าจะเสียหายโดยสิ้นเชิง 375,160 ไร่ ทางจังหวัดสุรินทร์จึงได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้วจำนวน 9 อำเภอ จาก 17 อำเภอ
สำหรับสถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 20 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ยังอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วง มีปริมาณต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำหลัก เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงมีปริมาณน้ำเหลือเพียง 3.9 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุ, อ่างเก็บน้ำอำปึลมีปริมาณน้ำเหลือเพียง 2.4 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 8.7 ของความจุ ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งทางชลประทานสุรินทร์ได้หยุดจ่ายน้ำเพื่อทำการเกษตรแล้ว
ขณะที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงได้บินขึ้นทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดสุรินทร์ที่ไม่มีแนวเขาไว้กั้นอาจทำให้ฝนไปตกห่างจากจุดที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการไปยังผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เร่งสำรวจความเสียหายและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือชดเชยความเสียหายไร่ละ 606 บาท ความจริงแล้วไม่ตรงต่อต้นทุนที่เป็นจริงซึ่งในการทำนาใช้เงินลงทุนมาก จึงจะต้องหาแนวทางอื่นช่วยเหลือเกษตรกรเพิ่มเติมด้วย