แพร่ - นักวิชาการอาวุโสตีแสกหน้ารัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ กลับโยนบาปให้ “แม่น้ำยม” ชี้ “แก่งเสือเต้น” เป็นสัญลักษณ์รวมศูนย์สูบผลประโยชน์ของรัฐบาลทรราช ถ้าปล่อยให้รัฐบาลทำตามอำเภอใจอาจเกิดสงครามกลางเมืองในอนาคต
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิสืบนาคะเสถียร นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เครือข่ายภาคประชาชนภาคเหนือ รวม 55 คน ภายใต้การนำของนายประสาร มฤคพิทักษ์ และ อ.ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการอาวุโส เข้าพิสูจน์ป่าดงสักงามและจุดสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ภายในอุทยานแห่งชาติแม่ยม ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนายเส็ง ขวัญยืน กำนัน ต.สะเอียบ, นายสมมิ่ง เหมืองร้อง ประธานกลุ่มคัดค้านสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ ให้การต้อนรับและนำชมพื้นที่ป่าดงสักงาม ที่กว้างใหญ่ในจุดที่รัฐบาลตัดสินใจสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นตามที่เป็นข่าวออกมา
หลังจากเข้าชมพื้นที่ป่าในจุดที่สูงสุดของอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยแล้ว ได้ร่วมกันมีเวทีแสดงความคิดเห็นระหว่างกลุ่มที่มาเยี่ยมชมและชาวบ้านเจ้าของพื้นที่ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยมบริเวณแก่งเสือเต้น
ทั้งนี้ ได้มีข้อสรุปร่วมกันว่า เมื่อเข้าดูพื้นที่ป่าพบว่ายังอุดมสมบูรณ์ และกว้างใหญ่มาก ถ้าถูกน้ำท่วมจะทำให้ได้รับความเสียหาย ป่าดงสักงาม ถือเป็นสมบัติทางธรรมชาติที่ล้ำค่ามาก โดยเฉพาะมีชุมชนปกปักษ์รักษาอยู่ ซึ่งสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศไทยเหลือเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น คณะได้ชื่นชมชาวบ้าน ต.สะเอียบ ที่เป็นชุมชนเข้มแข็งลุกขึ้นมาต้านอำนาจรัฐและอำนาจกลุ่มทุนที่กำลังรอฉวยโอกาสหาผลประโยชน์จากป่าและการสร้างเขื่อน
นายศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการอาวุโส กล่าวว่า น้ำท่วมแก้ไม่ได้ รัฐบาลเอาแม่น้ำยมเป็นแพะรับบาป แทนที่จะบอกว่าตนเองแก้ปัญหาไม่เป็น จึงดึงคนให้มาสนใจต้องสร้างเขื่อนอย่างเดียว ถือเป็นสันดานของรัฐบาล นักการเมืองและข้าราชการ ความจริงแล้วมีวัตถุประสงค์อยู่เบื้องหลังคือ การตัดป่าไม้สักที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
ในฐานะภาคประชาสังคมจะต้องกระตุ้นให้สังคมได้ตระหนัก สนับสนุนท้องถิ่นที่มีความเข้มแข็ง ประการสำคัญอีกอย่าง คือ ต้องเผยแพร่สื่อข่าวออกไปว่าน้ำยมเป็นจุดเล็กๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเลย และทางออกที่ดีในการแก้น้ำท่วมน้ำแล้ง ควรเป็นเรื่องของชุมชนท้องถิ่นได้หารือกัน ไม่ใช่รัฐบาล การที่รัฐบาลมีแผนสร้างเขื่อนเป็นสัญญาณการไม่รับฟังชุมชนที่มีวิธีการจัดการแล้วแต่รัฐไม่ฟัง ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลทรราช ทรยศประชาชน
การที่น้ำท่วมสุโขทัยขณะนี้ นายศรีศักรกล่าวว่า น้ำจำนวนมากมาจากเด่นชัย วังชิ้น และศรีสัชนาลัย เป็นพื้นที่ที่กว้างมาก รับน้ำที่ตกในช่วงจังหวัดแพร่ตอนล่างต่อกับจังหวัดสุโขทัย สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คือ การขยายตัวของภาคเกษตรกรรมเกินไปจนขาดความสมดุล รัฐบาลต้องคืนสิทธิให้ชุมชนได้จัดการลุ่มน้ำขนาดเล็กของตนเอง เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ด้วย เมื่อจัดการในระดับย่อยของชุมชนได้ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ก็ไม่เกิดจะมีการทำแก้มลิงทุกลุ่มน้ำขนาดเล็ก
แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่ฟัง ประชาชนอาจต้องลุกขึ้นมาสู้และพิทักษ์สิทธิของชุมชนด้วยตนเองเช่น ชาวสะเอียบ ที่กำลังทำอยู่ และถ้ารัฐไม่ฟังอนาคตก็คงเกิดสงครามกลางเมือง
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ตัวแทนนักธุรกิจเพื่อสังคมฯ กล่าวว่า จากที่ได้เข้ามาดูข้อเท็จจริงเมื่อเห็นแล้วต้องช่วยกันแพร่ข่าวสารออกไปในทุกระบบที่ทำได้ ซึ่งจะดูว่าวุฒิสภา คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ จะว่าอย่างไร โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม ควรจะใส่ใจในเรื่องเหล่านี้อาจต้องมารู้มาเห็นในพื้นที่จริง เชื่อว่าถ้าได้มาเห็นของจริงจะทำให้เกิดความเข้าใจมากกว่าที่จะฟังผ่านสื่อทั่วๆ ไปในส่วนของนักธุรกิจที่มาดูเพราะมีส่วนที่จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาในทางที่ดีต่อไป