ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 รวบตัวหนุ่มจัดเก็บลิขสิทธิ์สุดแสบปล้นเซเว่นกลางดึกที่เชียงใหม่ หลังก่อเหตุปี 53 แล้วหลบหนี ภายหลังมีคดีจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่บุรีรัมย์เลยหนีกลับมาซ่อนตัวที่เชียงใหม่ สารภาพร่วมทีมจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ แต่พอได้เงินกลับเอาไปใช้เองก่อน พอถึงเวลาส่งเงินให้บริษัทแล้วไม่มีเลยต้องปล้นเซเว่นหาเงินมาคืนแทน
วันนี้ (15 ก.ย. 2555) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมคณะ แถลงข่าวการจับกุมตัวนายระพี หรือพี คุดค่ำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501/34 หมู่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาคดีก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ปตท.บิ๊กซี ดอนจั่น ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2553
การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากในช่วงตั้งแต่ปี 2553 ถึง ปัจจุบัน ได้เกิดคดีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ โดยคนร้ายจะลงมือในเวลากลางคืน และใช้มีดหรือปืนเป็นอาวุธในการข่มขู่พนักงานก่อนจะทำการชิงทรัพย์
จากเหตุดังกล่าว กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ทำการติดตามหาตัวผู้กระทำผิด เนื่องจากคดีดังกล่าวถือเป็นคดีสะเทือนขวัญและอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนในช่วงเวลากลางคืนได้
ต่อมาจากการสืบสวนและตรวจสอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่านายระพีคือผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ปตท.บิ๊กซี ดอนจั่น แต่นายระพีได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่
ต่อมาในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พบชายลักษณะคล้ายนายระพีปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูว์บ โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จัดเก็บลิขสิทธิ์และเข้าไปตรวจสอบและเก็บค่าลิขสิทธิ์ตามร้านเกมในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.บุรีรัมย์ จนทราบว่านายระพีได้หลบหนีจาก จ.บุรีรัมย์กลับมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ โดยอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 159/73 หมู่บ้านอนุสารวิลล่า ม.10 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายระพีไว้ได้
พล.ต.ท.สุเทพกล่าวว่า จากการสอบสวนนายระพีให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ปตท.บิ๊กซี ดอนจั่นจริง โดยเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์จะนำไปส่งให้กับบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่นายระพีทำงานอยู่ เนื่องจากนายระพีได้นำเงินที่ได้จากการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ไปใช้จ่ายก่อน เพราะยังไม่ได้นำส่งให้กับบริษัท เมื่อถึงกำหนดแล้วไม่มีเงินส่งจึงตัดสินใจชิงทรัพย์จากร้านสะดวกซื้อเพื่อนำเงินที่ได้มาส่งให้กับบริษัทแทน
ส่วนภาพที่ปรากฏในเว็บไชต์นั้น นายระพีระบุว่าได้ไปออกจัดเก็บลิขสิทธิ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเกิดเหตุและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวจึงหลบหนีกลับมาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.สุเทพกล่าวต่อไปว่า นายระพีอยู่ในระหว่างการประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์คดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่กลับมาก่อเหตุชิงทรัพย์อีก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะสืบสวนว่านายระพีเป็นผู้ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์จากร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ด้วยหรือไม่ เนื่องจากพบว่าลักษณะการเข้าชิงทรัพย์ในแต่ละครั้งมีความคล้ายคลึงกัน กล่าวคือคนร้ายมักจะเลือกลงมือในเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. และเลือกชิงทรัพย์จากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาที่ค่อนข้างเปลี่ยว ขณะเดียวกันจะขยายผลด้วยว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุชิงทรัพย์ด้วยหรือไม่