เชียงราย - สองนักข่าวเชียงราย ก่อเหตุบุกร้านเกม-ยิงปืนกลางเมือง ขึ้นโรงพักให้ปากคำตำรวจ รับแค่ข้อหาอาวุธปืน ส่วนอีก 7 ข้อหาปฏิเสธสิ้นเชิง อ้างก่อเหตุเพราะเมา ขอโทษเหยื่อถูกตบ ยันเข้าไปเตือนร้านเกมด้วยความหวังดี ไม่รู้เปิด 24 ชม.ได้ แต่เกิดความเข้าใจผิดจนบานปลายขึ้น แถมถูกวัยรุ่นทำร้ายหน้าร้านจนโมโห ขณะที่ ตร.ยอมให้ประกันตัววงเงิน 3 แสนต่อคน ท่ามกลางเสียงค้าน
วันนี้ (13 ก.ย.55) ที่ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายธีระวัฒน์ คำธิตา อายุ 41 ปีบ้านเลขที่ 8881/8 ถ.อุตรกิจ เทศบาลนครเชียงราย ผู้สื่อข่าวพิเศษสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และหนังสือพิมพ์ส่วนกลางชื่อดัง พร้อมด้วยนายชาญชัย ไชยชุมภู อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 89/1 ม.15 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สันติ ศิริสำราญ ร้อยเวรเจ้าของคดี กรณีเกิดเหตุเข้าไปทำร้ายตบตี ทำลายข้าวของ และยิงปืนที่บริเวณร้านเกมเวอร์จิ้นเน็ต เลขที่ 665/4 ถ.ศรีเกิด เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย กลางดึกคืนวันที่ 8 ก.ย.55 ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฎตามหลักฐานภาพทางกล้องวงจรปิด จนนายธัชพล พันธุ์ศิลป์ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านและผู้ประสบเหตุอีกหลายคน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายธีระวัฒน์ และนายชาญชัย ในหลายข้อหา หลังจากทางตำรวจได้ดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนคือพกพาปืนในที่สาธารณะ ยิงปืนในที่สาธารณะ จนต้องประกันตัวออกไปก่อนหน้านี้ด้วยวงเงินรวม 200,000 บาทไปแล้ว
พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายธีระวัฒน์ และนายชาญชัย นานกว่า 3 ชั่วโมง โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพและรายละเอียด แต่มีกระแสว่า มีการสอบปากคำเกี่ยวกับข้อหามีอาวุธปืน และครอบครองอาวุธปืน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ยิงปืนในที่สาธารณะ บุกรุกยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน พยายามฆ่า รวมถึงข้อหาเกี่ยวกับรีดไถเงินจากร้านอินเตอร์เน็ต แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว
ซึ่งท้ายที่สุดทั้งคู่สารภาพเพียงข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาอื่นๆ ทางพนักงานสอบสวนจึงให้ประกันตัวออกไปสู้คดีได้ในวงเงินคนละ 300,000 บาท จนทำให้กลุ่มผู้ประสบเหตุที่ร้านอินเตอร์เน็ตได้ยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัว แต่ทางตำรวจก็ให้ประกันตัวออกไปตามปกติ
และหลังให้ปากคำนายธีระวัฒน์ นายชาญชัยและทนายความ ได้ออกไปไหว้ขอโทษสื่อมวลชนที่ด้านหน้า สภ.เมืองเชียงราย และนำภาพใบใหญ่แสดงอาการบาดเจ็บของตัวเองไปแสดง ก่อนจะเดินทางออกไปยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ด้านหน้าอาคาร สภ.เมืองเชียงราย ว่า "ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง โดยเฉพาะการตบผู้หญิงซึ่งตนเองไม่มีเจตนาจริง ๆ ส่วน เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าไปข่มขู่รีดไถ และปลอมตัวเป็นตำรวจ ปคม.นั้น ก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งตนเองก็เป็นที่รู้จักของหลายคนโดยเฉพาะสื่อมวลชนด้วยกัน คงไม่ปลอมเป็นตำรวจแน่นอน และไม่ รีดไถเงินร้านเกมเหล่านี้ ส่วนหาเหตุที่เข้าไปในร้านในคืนเกิดเหตุ เพราะตนเองไม่รู้กฎหมาย ว่าร้านเกมเปิด 24 ชั่วโมงได้ เพียงเข้าไปถามเท่านั้น แต่ก็เกิดเรื่องบานปลายขึ้น ดังนั้นจึงขอความเป็นธรรมบ้าง และตนเองก็ถูกทำร้ายเช่นกันในคืนเกิดเหตุและก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน"
อย่างไรก็ตามช่วงที่ให้ปากคำแฟนสาวของนายธีระวัฒน์ ได้นำเอกสารเป็นแถลงการณ์ชี้แจงออกแจกจ่ายจำนวน 3 แผ่น รวมทั้งนำกล้องวีดีโอที่ติดตรา หรือโลโก้สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ออกมาถ่ายเก็บภาพไว้ตลอดเวลา
โดยแถลงการณ์มีเนื้อหาขอโทษการกระทำดังกล่าวต่อสื่อมวลชนทั่วประเทศ และในเชียงราย รวมทั้งประชาชน และสุภาพสตรีที่ถูกทำร้ายในภาพจากกล้องวงจรปิด จากนั้นได้ระบุว่า คืนเกิดเหตุได้ไปงานเลี้ยงมาจนเมา แต่ขณะรอแท็กซี่มิเตอร์ได้เห็นกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปเล่นเกมจำนวนมาก และนึกถึงช่วงไปทำข่าวเรื่องการจัดระเบียบสังคมที่หลายหน่วยงานเข้มงวดเรื่องเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปใช้บริการ จึงเดินข้ามถนนไปตักเตือน แต่เนื่องจากตนมึนเมาสุราทำให้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านไม่เข้าใจ และเกิดมีปากเสียงกันขึ้น จนตบสุภาพสตรีดังกล่าว สาเหตุเพราะโต้เถียงตน ซึ่งกรณีนี้ขอกราบขอโทษที่ได้ล่วงเกินและเสียใจมาก
ในแถลงการณ์ ระบุอีกว่า จากนั้นตนได้เดินออกจากร้านและพบกลุ่มวัยรุ่นอยู่ จึงเกรงจะถูกทำร้าย เพื่อนที่ไปด้วยจึงชักอาวุธปืนจากกระเป๋าสะพายของตนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ และตนยังคงโกรธอยู่จึงกระโดดถีบรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านหลายคัน จากนั้นพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 5 นาย ได้เข้าไปคุมสถานการณ์ที่หน้าร้านแล้ว ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวให้ไปตรวจสอบร้าน จากนั้นตนจึงเดินเลี่ยงไป แต่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปรุมตนจึงยิงปืนขึ้นฟ้าอีกประจวบกับตำรวจไปเห็นพอดี ตนจึงมอบปืนให้ตำรวจไป แต่ตนก็ยังถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายชกต่อยจนบาดเจ็บ ทั้งนี้ยืนยันว่า ปืนที่ใช้มีทะเบียนถูกต้อง และมีใบอนุญาตพกพาในจังหวัด รวมทั้งไม่ได้อ้างเป็นตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ไปรีดไถเก็บส่วยร้านอินเตอร์เน็ตตามที่เป็นข่าวครึกโครม
ท้ายที่สุดใบแถลงระบุว่า ภาพที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดเกิดจากความมึนเมา แต่ยังมีเจตนาดี แค่ต้องการห้ามปราบการปิดร้านเกมจนถึงเช้า ส่วนข่าวที่ออกมาเกี่ยวข้องกับการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีคอยจ้องจะทำลายตน ซึ่งอยู่ในวงการสื่อมวลชนและภาคการเมือง ส่วนที่เป็นความจริงขอยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย
จากนั้นยังระบุอีกว่า หากสังคมให้อภัยก็พร้อมจะปรับปรุงตัวให้ดีมากที่สุด และขอมารับใช้สังคมอย่างระมัดระวังมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ประสบเหตุหลายคนสงสัยในคำแถลงของนายธีระวัฒน์ เช่น ได้ปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดหลายตัวที่แสดงเหตุการณ์นายธีระวัฒน์ ได้เข้าไปผลักตำรวจที่เข้าไประงับเหตุที่หน้าร้านเวอร์จิ้นเน็ต โดยไม่ได้ไปมอบปืนโดยดี ฯลฯ จึงทำให้ช่วงที่นายธีระวัฒน์ และพวกให้การกับตำรวจ ได้มีผู้ประสบเหตุหลายคนพากันไปยืนถือป้ายแสดงออกกันบริเวณ สภ.เมืองเชียงราย โดยมีข้อความต่างๆ เช่น อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวล -ขอคัดค้านการประกันตัว -ความยุติธรรมมีไหม ฯลฯ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากเหตุรุนแรงจะเกิดที่ร้านเกมเวอร์จิ้นเน็ตดังกล่าวแล้ว ถัดจากนั้นอีกไม่กี่วันได้มีผู้ประกอบการร้านเกมส์ในลักษณะเดียวกันอีก 7 รายที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง นำหลักฐานภาพถ่ายเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบ้านดู่ สภ.เมืองเชียงราย ว่า ถูกกลุ่มคน 4 คนเข้าข่มขู่ให้จ่ายเงินเป็นรายเดือน โดยมีการใช้สติ๊กเกอร์ของตำรวจไปเรียกรับเงิน ซึ่งสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุที่ร้านเกมเวอร์จิ้นเน็ตหรือไม่ด้วย
ทั้งนี้มีรายงานข่าวด้วยว่า ก่อนการสอบปากคำเพียง 1 วันทางคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กก.ตร.) จ.เชียงราย ได้มีการประชุมและมีมติให้กรรมการออกจากตำแหน่ง 1 คนด้วย