เชียงราย - เจ้าของร้านเกมเหยื่อแก๊งนักข่าวมาเฟียเชียงรายขึ้นโรงพักอีกรอบ หวังยื่นหลักฐานความเสียหายเพิ่มเติมแต่ถูก ตร.ให้กลับไปรวบรวมหลักฐานมาให้ครบก่อนแจ้ง ระบุก่อนหน้านี้เคยถูกแก๊งนี้บุกรีดเงินจากร้านในเครือมาแล้ว เล็งรวมตัวร้านเกม-เน็ตแจ้งความเพิ่ม ด้าน ผบช.ภ.5 ยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมย้ำข้อหา “พยายามฆ่า” ยอมความไม่ได้
วันนี้ (10 ก.ย.) นายธัชพล พันธุศิลป์ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเวอร์จิ้นเน็ต เลขที่ 665/4 ถ.ศรีเกิด เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ถูกกลุ่มนักข่าวชายฉกรรจ์บุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน และยิงปืนบริเวณร้านเมื่อเช้ามืดวันที่ 8 ก.ย. 55 ที่ผ่านมา โดยผู้ถูกกล่าวหาที่มีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดของร้าน เป็นผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ส่วนกลางชื่อดังด้วย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สันติ ศิริสำราญ ร้อยเวรเจ้าของคดี
นายธัชพลได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนกรณีมีทรัพย์สินอีกหลายรายการ ซึ่งไม่ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงแรกได้รับความเสียหายจากการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เช่น รถจักรยานยนต์ ซึ่งปรากฏในภาพถูกถีบ ผลัก และแทงล้อ รถยนต์ ฯลฯ นอกเหนือจากทรัพย์ภายในร้านเป็นคอมพิวเตอร์และอื่นๆ
โดยเฉพาะกรณีของรถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เป็นของลูกค้าที่ไปใช้บริการในร้าน ซึ่งเท่าที่ปรากฏในคลิปอย่างน้อย 4 คันถูกถีบและใช้อุปกรณ์ทำลายล้อยาง ก่อนจะทำร้ายคนที่ผ่านไปมาโดยเฉพาะหญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งถูกเตะอย่างจัง
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนกลับแจ้งให้นายธัชพลกลับไปรวบรวมผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ทั้งหมดมาแจ้งพร้อมกันด้วย โดยบอกว่าหากแยกไปแจ้งทีละคันจะทำให้เกิดความล่าช้าและติดขัด ทำให้นายธัชพลต้องกลับออกมาจาก สภ.เมืองเชียงรายเพื่อไปติดตามรวบรวมกลุ่มคนที่เสียหายต่อไป
จากนั้นนายธัชพลได้ไปยื่นหนังสือขอบคุณนายโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย ที่ทางสื่อมวลชนได้ช่วยกระตุ้นข่าวสารให้สังคมได้รับรู้ เพราะนายธัชพลเกรงว่าหากไม่มีการนำเสนอข่าววงกว้างตัวเขาอาจจะมีอันตรายได้
นายธัชพลยืนยันว่า ร้านถูกบุกรุก และนายโอเล่ (ธีรวัฒน์ คำธิตา ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำช่อง 7 สี, เจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “ฟ้าล้านนา” และเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษหนังสือพิมพ์ส่วนกลางบางฉบับด้วย) พาพวกเข้าไปทำร้ายคนในร้าน ทำลายทรัพย์สิน ทำลายรถจักรยานยนต์ และยังทำร้ายตนอีก ตนจึงได้นำข้อมูลหลักฐานต่างๆ ไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังได้หารือกับเจ้าของร้านเกมอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ที่เคยถูกกระทำด้วยการอ้างตัวเป็นตำรวจเข้าไปขูดรีดให้รวมตัวกันไปแจ้งความเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนเข้าไปที่ร้านในเครือที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จำนวน 4 คน และอ้างตัวเป็นตำรวจ โดยเข้าไปขอเงินรายเดือน เดือนละ 2,000-3,000 บาท หนึ่งในนั้นเป็นคนเดียวกับคดีนี้ ซึ่งตนมีข้อมูลหลักฐานและภาพถ่ายต่างๆ เอาไว้หมดแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.ภาค 5 เปิดเผยภายหลังเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.เชียงรายว่า ได้สั่งการให้มีการดูแลคดีกันอย่างเป็นพิเศษ โดยจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง คดีจะต้องเป็นไปตามข้อมูลหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่จะมีการยอมความกันให้หลุดจากข้อหาพยายามฆ่านั้นคงจะไม่มี เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา และทางตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามหลักฐานและข้อเท็จจริง ด้านความปลอดภัยได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.เชียงราย ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแล้ว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับคดีดังกล่าวมีขึ้นเมื่อมีการเผยแพร่ภาพคลิปเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้าไปในร้านเกมอินเทอร์เน็ตชื่อร้านเวอร์จิ้นเน็ต ห่างจาก สภ.เมืองเชียงราย และกองบังคับการ ภ.เชียงรายเพียงเล็กน้อย เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 8 ก.ย.55 ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพชายฉกรรจ์ 2 คนเข้าไปทำร้ายร่างกายคนดูแลร้านคือ นายณรงค์เดช บุญกล้าหาญ อายุ 22 ปี และ น.ส.ศิริสัญญา ศรีจันทร์ อายุ 18 ปี ทั้งชกและตบ ก่อนทำลายทรัพย์สินในร้าน และออกไปถีบ ผลัก และใช้ของแข็งเจาะยางรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้าน ก่อนจะยิงปืนหลายนัดจนตำรวจเข้าไประงับเหตุ แต่ก็ถูกผลักทำให้มีการควบคุมตัวทั้งคู่ดำเนินคดีข้อหามีอาวุธปืน ครอบครองอาวุธปืน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ
ต่อมานายธัชพล และคนดูแลร้านได้เข้าแจ้งความเพิ่มในข้อหาบุกรุก ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สินหลายรายการ และข้อหาพยายามฆ่า โดยระบุว่ามีการใช้ปืนจ่อที่ศีรษะของเขาด้วย
สำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหาและเป็นชายที่อยู่ในคลิปชื่อว่านายธีรวัฒน์ คำธิตา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 888/18 ถ.อุตรกิจ อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และหนังสือพิมพ์ชื่อดังประจำ จ.เชียงราย และนายชาญชัย ไชยชุมภู อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/1 ม.15 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซด แต่ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ และได้ประกันตัวออกไปสู้คดีข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนด้วยวงเงินประมาณ 200,000 บาท แต่ยังไม่ถูกดำเนินการในข้อหาบุกรุก ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สินหลายรายการ และข้อหาพยายามฆ่าแต่อย่างใด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อจะเรียกไปสอบปากคำ และพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป