ลำปาง - พื้นที่ 4 ตำบลของอำเภอแจ้ซ้อน เมืองลำปาง เจอน้ำป่าทะลักท่วมแบบไม่ทันตั้งตัว ทำทรัพย์สิน-บ้านเรือนชาวบ้านเสียหายเพียบ แถมมีดินสไลด์ปิดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านบางจุดซ้ำ โดยที่ จนท.ยังไม่สามารถนำเครื่องจักรกลเข้าเคลียร์เปิดเส้นทางได้ ต้องรอจนกว่ามีแดด
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า หลังจากที่เกิดเหตุน้ำป่าจากลำห้วยแม่มอญ และลำห้วยแม่กาไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบลของ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เมื่อเช้ามืดวันที่ 8 ก.ย. ทำให้หลายหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน โดยพื้นที่ที่ประสบภัยหนักสุดคือ ต.แจ้ซ้อน 6 หมู่บ้าน 150 หลังคารเรือน มีดินสไลด์ปิดเส้นทางที่บ้านปางต้นหนุน
นอกจากนี้ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนานหลายชั่วโมงยังทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายในโรงเรียนแจ้ซ้อนด้วย เบื้องต้น ภายในห้องสมุดของโรงเรียนน้ำท่วมขังทางโรงเรียนต้องเก็บหนังสือไว้บนชั้น ห้องเลี้ยงเด็กเล็กถูกน้ำท่วมมีอุปกรณ์การเรียนการสอนบางส่วนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย
อำเภอเมืองปานยังได้รับรายงานว่า ที่บริวณบ้านปางต้นหนุน หมู่ 10 ต.แจ้ซ้อน เกิดดินสไลด์ ปิดทับเส้นทางเข้าหมู่บ้านหลายจุด ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านจำนวน 60 หลังคาเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เดินทางเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้
เจ้าหน้าที่กำลังขนเครื่องจักรกลเข้าเคลียร์ดินที่ปิดทับเส้นทางอย่างเร่งด่วนแล้ว แต่เนื่องจากทางขึ้นไปยังหมู่บ้านสูง และเป็นดินลูกรัง ทำให้ยากต่อการทำงาน ซึ่งอาจจะต้องรอให้มีแดดเพื่อให้ดินแข็งตัวก่อน ถึงจะนำเครื่องจักรเข้าปรับได้ มิฉะนั้น อาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้
นายทัศนัย สุขเจริญ นายอำเภอเมือปาน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก มีทั้งสิ้น 4 ตำบล คือ ต.แจ้ซ้อน ต.หัวเมือง ต.บ้านขอ ต.ทุ่งกว๋าว อ.เมืองปาน ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
ด้านชาวบ้านรายหนึ่งคือ นางสุคำ ชาวบ้านบ้านศรีดอนมูล อ.เมืองปาน ลำปาง บอกกับนักข่าวว่า น้ำป่าหลากเข้ามาตอนตี 3 ช่วงที่ตนเองนอนหลับพักผ่อนในบ้าน ตนไม่ได้ตั้งตัวตื่นขึ้นมาน้ำก็ท่วมเต็มบ้าน เก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ทัน ส่วนด้านล่างบ้านตนเองเปิดเป็นร้านซักอบรีดทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่เสียหายหมด
“ปีนี้น้ำป่าหนักกว่าปีที่ผ่านมา สูงถึง 2 เมตร มาแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และมาเร็วไปเร็ว”
สำหรับพื้นที่อำเภอเมืองปาน สถานการณืน้ำไหลหลากจะไม่เหมือนกับพื้นที่อื่นๆ คือ น้ำป่าจะไหลหลากมาเร็ว และน้ำจะท่วมขังประมาณสองถึงสามชั่วโมง หลังจากนั้นน้ำก็จะลดระดับไป เหลือไว้แต่ความเสียหาย ซึ่งช่วงบ่ายชาวบ้านได้เร่งทำควมสะอาดบ้านเรือน ขณะที่หน่วยงาน อบต.แจ้ซ้อนได้นำเครืองจักรเข้ามาตักโคลนออกจากถนน และหน้าบ้านของชาวบ้านเป็นการด่วนแล้ว