โวยอาคเนย์ประกันภัยไม่รับผิดชอบซ่อมศาลาที่พักผู้โดยสารทำชาวบ้านเดือดร้อน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านชุมชนเขาคันธมาทน์ อำเภอสัตหีบ โวยหน่วยงานรัฐ และบริษัท อาคเนย์ประกันภัย หลังปล่อยให้ศาลาที่พักผู้โดยสารซึ่งถูกรถกระบะลูกประดูผู้เอาประกันชนจนพังพินาศนานเกือบ 2 เดือน แต่ไม่เข้ามาแก้ไข ทำชาวบ้าน และเด็กนักเรียนเดือดร้อนไม่มีชายคาหลบแดดหลบฝน

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนเขาคันธมาทน์ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาศาลาที่พักผู้โดยสาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมถนนสุขุมวิท ปากซอยวัดเขาคันธมาทน์ ที่ถูกรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บ 2 ประตู สีดำ ทะเบียน ผข 9938 ขอนแก่น ซึ่งเป็นของ จ.อ.ชาตรี รักษาภักดี สังกัดศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ พุ่งเข้าชนจนพังพินาศ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันกลับยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลแก้ไข

จากการตรวจสอบสภาพศาลา พบว่า มีการทรุดตัวลงจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด และอาจพังถล่มลงมาได้ตลอดเวลาหากเจอมรสุม หรือลมแรง และยังเป็นภาพที่ไม่น่ามองของผู้ที่สัญจรผ่านไปมา

เบื้องต้น เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ทำได้เพียงนำป้ายมาติดประกาศเตือนให้เป็นพื้นที่อันตราย และห้ามใช้ตัวอาคาร นอกจากนี้ ยังติดป้ายชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้เทศบาลฯ ได้ประสานงานไปยังหมวดการทางสัตหีบเพื่อให้บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด ในฐานะผู้รับผิดชอบ ดำเนินการซ่อมแซมแล้ว และได้รับรายงานว่าบริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดหาว่าจ้างผู้รับเหมา

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่างไม่พอใจในความล่าช้าของการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ เพราะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ต้องใช้ประโยชน์จากศาลาที่พักผู้โดยสารแห่งนี้ โดยต่างพากันเข้ามาเขียนข้อความทิ้งไว้ในศาลามากมาย เช่น ใครก็ได้ช่วยนักเรียนและประชาชนที่ใช้ศาลานี้ด้วยครับ ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามารับผิดชอบประชาชนจะพึ่งพาใครได้ และพวกหนูไม่มีที่หลบฝนระหว่างรอรถไปโรงเรียน

ด้านนางชวนพิศ สุขเจริญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 เผยว่า ปัจจุบัน ชุมชนเขาคันธมาทน์ มีหมู่บ้านจัดสรรขึ้นหลายสิบโครงการ ทำให้มีประชาชนเข้ามาพักอาศัยมากขึ้น ซึ่งจากเดิมบริเวณด้านหน้าปากซอยไม่มีที่พักผู้โดยสารทำให้เด็กนักเรียนที่ออกมายืนคอยรถต้องตากแดดตากฝน และเป็นอันตรายขณะยืนอยู่ริมทาง

ด้วยเหตุนี้ คณะสงฆ์วัดเขาคันธมาทน์ จึงร่วมกับประชาชนในชุมชน สมทบทุนกว่า 4 แสนบาท จัดสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารดังกล่าว โดยไม่มีการโอนมอบให้หน่วยงานรัฐ ทำให้เมื่อเกิดปัญหาจึงไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ล่าสุด ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ ให้เร่งรัดบริษัทประกันภัยให้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมแต่ยังไร้วี่แวว

เช่นเดียวกับนายไพรัตน์ กาญจนา ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่เคยใช้ชายคาศาลาแห่งนี้เป็นที่หลบแดดหลบฝนในระหว่างรอผู้โดยสาร กล่าวว่า ทุกคนในวินต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกับประชาชน และเด็กนักเรียนซึ่งผู้ปกครองบางรายเกรงว่าบุตร-หลานอาจได้รับอันตรายจากการยืนรอรถเมล์ จนต้องยอมขับขี่รถส่วนตัวไปส่งบุตรหลานถึงโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ทำให้ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่าย

จึงฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ตามปกติ ไม่เช่นนั้นชาวบ้านชุมชนเขาคันธมาทน์คงต้องเดือนร้อนไปอีกนาน