xs
xsm
sm
md
lg

“วะริดา แซ่อึ้ง” พาไปย้อนรอย“ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา)”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การเติบโตทางการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีในวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของกลุ่มนักลงทุนทั้งจากส่วนกลาง และในท้องที่ จุดประสงค์สำคัญก็เพื่อร่วมกันสร้างจุดขายทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายให้เกิดแก่เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกแห่งนี้ และ “ตลาดน้ำ 4 ภาค” ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากจุดเริ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สร้างจุดสนใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาได้เป็นอย่างดี และยังเป็นที่กล่าวขวัญถึงการเนรมิตพื้นที่ติดถนนสุขุมวิท ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำขนาดใหญ่ ที่มีจุดขายเรื่องความเป็นไทย และอาหาร รวมถึงวัฒนธรรมทั้ง 4 ภาคได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นแหล่งท่องเที่ยวใหม่อย่าง “ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา” ที่ในวันนี้ยังคงมีพัฒนาการด้านการสร้างจุดขายเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

คุณวะริดา แซ่อึ้ง ผู้บริหาร บริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จำกัด แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนกลางเมืองพัทยา ภายใต้ชื่อ “ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา)” ได้บอกเล่าถึงที่มาที่ไปของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ว่า เกิดจากมุมมองของความเป็นแม่ ที่พยายามสร้างสรรค์สิ่งดีที่สุดในการปลูกฝั่งความรักในศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของคนไทยให้เกิดความซึบซับและเรียนรู้ จนเป็นที่มาของการก่อตั้งศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมเมืองพัทยาให้แก่ลูกน้อย

จากความร่วมมือ ร่วมใจในการส่งเสริมและสร้างจุดขายทางการท่องเที่ยว ทำให้อัตราการเติบโตของยอดนัก ท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยาวันนี้มีไม่น้อยกว่า10-15% ต่อปี และในปี 2554 ที่ผ่านมา ยังพบว่าเมืองพัทยามีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงประมาณ 7.3 หมื่นล้านบาท และในปี 2555 หากไม่มีปัจจัยลบมาฉุดรั้ง ก็คาดว่ ตัวเลขรายได้ทางการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 7.5 -7.7 หมื่นล้านบาท

ก่อนที่จะมีการพัฒนาสู่การเป็น ตลาดน้ำ 4 ภาคเมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชลบุรี ที่ในวันนี้ชื่อเสียงด้านความสวยงาม และการถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิต และบอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นไทยของคนไทยทั้ง 4 ภาคยังคงเลื่องลือไปไกลในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและในต่างแดน

คุณวะริดา หรือคุณนก บอกว่าจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการก่อตั้งตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) เกิดจากมุมมองที่ต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้เกิดขึ้นในจังหวัดชลบุรี หลังตนและสามี ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขตอำเภอบางละมุง ซึ่งพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เมื่อ 4-5 ปีก่อน คือเวิ้งน้ำป่ากกขนาดใหญ่ ที่อยู่ติดกับพื้นที่ก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรที่ตนและสามีดำเนินการอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาคนท้องถิ่นได้ใช้เวิ้งน้ำป่ากกแห่งนี้ เป็นจุดลอยกระทงในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เมื่อเห็นจุดขายของการเป็นเวิ้งน้ำขนาดใหญ่จึงมีแนวคิดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มของพื้นที่ ด้วยการจัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีน้ำเป็นสัญลักษณ์ และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่สำคัญ ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวและวัฒนธรรมของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี

“เริ่มแรกเราก็ใช้พื้นที่แห่งนี้ทำร้านอาหาร และศูนย์แสดงหุ่นกระบอกโจ-หลุยส์ แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ต้องการแสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นไทยก็เลยพยายามปรับรูปแบบให้มีจุดแสดง และร้านค้าเพื่อโชว์ความเป็นไทย และด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นน้ำ เราจึงเจอความยากลำบากในการหาผู้รับเหมาและออกแบบอาคารที่เหมาะสม และต้องเป็นการก่อสร้างด้วยไม้ ซึ่งเด็กที่จบมาใหม่ๆ จะใช้ไม้ไม่เป็

ดังนั้น เมื่อช่างสามารถสร้างอาคารไม้ได้หนึ่งหลัง เราก็จะให้เขาสอนงานให้กับช่างใหม่ทันที และก็ค่อยๆ ทำมาเรื่อยจนกลายเป็นตลาดน้ำฯ ในปัจจุบัน ซึ่งในครั้งแรกเราใช้งบ ประมาณถึง 250 ล้านบาท และปัจจุบันงบการก่อสร้างได้ขยายมาถึง 350 ล้านบาทแล้ว ทั้งนี้ยังไม่รวมมูลค่าของโรงแรมที่เรากำลังจะก่อสร้างขึ้นในพื้นที่ด้านหลัง รวมทั้งเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต ”

คุณนก ยังบอกอีกว่าจากวันแรกของการก่อตั้งตลาดน้ำ 4 ภาคเมืองพัทยา จนถึงวันนี้ ถือว่าความมุ่งมั่นที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อแสดงออกถึงความเป็นไทย สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและวิถีชีวิตคนไทยสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ไม่น้อยกว่า 70% ของเป้าหมายที่วางไว้ ที่เหลืออีก 30% คือการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับอุดมการณ์

“ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งถือเป็นช่วงที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตทาง การเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยชะลอการเดินทาง ขณะที่กลุ่มรัสเซีย ที่เรามองว่าน่าจะเป็นตลาดใหญ่ก็เจอปัญหาเศรษฐกิจทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ประหยัดการใช้จ่าย ทำให้ยอดรายได้ของเราในขณะนั้นไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในวันนี้เราสามารถผ่านวิกฤตต่างๆ มาได้ จึงมั่นใจว่านับจากนี้ไปไม่ว่าสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร แต่การท่องเที่ยวในเมืองพัทยาจะไม่ได้รับผลกระทบ ที่สำคัญแนวโน้มการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก ในปีนี้มีทิศทางสดใส ซึ่งเราก็คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวของเราจะเติบโตขึ้น และเราจะเดินหน้าเปิดตลาดในต่างประเทศ เพื่อหาเอเยนซี่ทัวร์กลุ่มใหม่ที่จะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กับเรา”

แม้ว่าในวันนี้ผลประกอบการของตลาดน้ำ 4 ภาค จะยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 100 % แต่ในส่วนของยอดรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ร้านค้า ที่มีเฉลี่ยประมาณ 70-80 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มจำนวนร้านค้าที่สนในติดต่อเช่าพื้นที่มากขึ้นก็ถือได้ว่าการดำเนินงานประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ

ปัจจุบันรายได้หลักของตลาดน้ำ 4 ภาค ซึ่งมีพื้นที่รวม 65 ไร่ มาจากการให้เช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการ ซึ่งมีจำนวนร้านค้าเปิดให้บริการมากกว่า100 ร้านค้า และมีเรือขายสินค้าลอยลำให้บริการในลำคลองขนาดใหญ่ถึง 60 ลำ และยังเพิ่มจุดขายใหม่ด้วยการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ 4 มิติในพื้นที่ด้านหน้าพื้นที่ตลาดน้ำ เพื่อสร้างความสนุกสนามให้กับผู้ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังเตรียมขยายพื้นที่ด้านหลังสำหรับจัดทำเป็นสถานที่จัดการแสดงทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลินให้กับผู้มาเยือน

นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังทุ่มงบประมาณอีกกว่า 40 ล้านบาท ในการจัดสร้างรีสอร์ตขนาด 22 ห้อง ที่เน้นการตกแต่งแบบไทย ภายใต้ชื่อ “Huay Yai Home Stay & Resort” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง และใช้เวลาเดินทางจากตลาดน้ำ 4 ภาคไม่ถึง 10 นาที เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยอย่างครบวงจร พร้อมทั้งจัดบริการนำเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หากนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางเป็นกรุ๊ปแสดงความจำนงค์

“โดยเฉลี่ยแล้ว ตลาดน้ำ 4 ภาคจะมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน ดังนั้น เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องหากิจกรรมทางการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการให้บริการโรงภาพยนตร์ 4 มิติก็น่าจะสนองความต้องการทางการท่องเที่ยวได้ดี เช่นเดียวกับตัวรีสอร์ตที่เราได้เปิดให้บริการแล้ว ”

คุณนก ยังบอกอีกว่าในแต่ละปีตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมทางการท่องเที่ยว และปรับปรุงพื้นที่ภายในโดยเน้นการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่มีอยู่ใน 4 ภาคของประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้ามาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าก็จะต้องผ่านการพิจารณาว่ามีรูปแบบงานบริการที่สอดคล้องกับรูปแบบของบริษัทฯ หรือไม่ เช่นเดียวกับรีสอร์ต ที่เปิดให้บริการ ก็เน้นการตกแต่งภายในที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบเช่นกัน

ทั้งนี้ปัจจุบัน ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ยังสร้างจุดขายความเป็นท้องถิ่น ด้วยการดึงสวนผลไม้ต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ร่วมจัดงานเทศกาลผลไม้ เพื่อกระจายผลผลิตในท้องถิ่นสู่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งสร้างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดฤดูกาลการท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น