ศูนย์ข่าวศรีราชา - สม.เมืองพัทยา จี้ผู้บริหารดูแลปัญหาการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน หลังพบผืนทรายหดหายต่อเนื่อง หวั่นอนาคตเหมือนเช่นชายหาดพัทยา
วันนี้ (5 ก.ย.) นายธงชัย อาจทรง สมาชิกสภาเมืองพัทยา เปิดอภิปรายในที่ประชุมสภาเมืองพัทยา เกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาว่า ปัจจุบันชายหาดจอมเทียนถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ เนื่องจากมีชายหาดเป็นแนวยาวที่สะอาด และกว้างขวางจนเป็นพื้นที่สำคัญหลักของเมืองพัทยาที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศจะเดินทางมาพักผ่อน
แต่จากการตรวจสอบสภาพชายหาดในช่วงที่ผ่านมานั้น พบว่า มีการเลื่อนไหลของแนวทรายในระยะกว้าง โดยพบว่าทรายส่วนใหญ่ถูกกระแสคลื่นซัดไปกองทับถมในพื้นที่เทศบาลตำบลนาจอมเทียนจำนวนนับหมื่นลูกบาศ์กเมตร ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของสิ่งก่อสร้างรุกล้ำ และการเคลื่อนตัวของกระแสคลื่นที่ปรับเปลี่ยนไป ซึ่งกรณีนี้หากเมืองพัทยายังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน และดำเนินการป้องกันที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้สภาพของชายหาดจอมเทียนมีสภาพคล้ายชายหาดพัทยาที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนถึงแนวสันเขื่อน จนทำให้แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญหายไป
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวชี้แจงว่า เรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ และเมืองพัทยาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งปัจจุบันหลังเข้าร่วมเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ อพท.ไปแล้ว ก็มีแผนในการพัฒนา และปรับปรุงพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน ได้รับงบประมาณสนับสนุนในหลายโครงการ เช่น การปรับสภาพภูมิทัศน์ชายหาดโรงโป๊ะ และชายหาดกระทิงลาย รวมทั้งโครงการพัฒนาปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ชายหาดพัทยา ซึ่งสอดคล้องกับแผนที่ทำร่วมกับกรมเจ้าท่า และศูนย์วิจัยทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะมาปรับปรุงและถมทะเลขนาดความกว้าง 50 เมตร ตลอดแนวชายหาดพัทยาในระยะ 3 กม.เพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเสนอแผนต่อคณะกรรมสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติ ก่อนขอจัดสรรงบประมาณลงมาดำเนินการในเร็ววันนี้
นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวสามารถรองรับปัญหาการกัดเซาะไปได้อีก 15-20 ปี ขณะที่ในส่วนของชายหาดจอมเทียนนั้น ก็กำลังจะนำเข้าสู่แผนของการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบ รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม โดยไม่ส่งผลสะท้อนไปถึงเรื่องของภูมิทัศน์ ผลกระทบด้านการท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
วันนี้ (5 ก.ย.) นายธงชัย อาจทรง สมาชิกสภาเมืองพัทยา เปิดอภิปรายในที่ประชุมสภาเมืองพัทยา เกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาว่า ปัจจุบันชายหาดจอมเทียนถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ เนื่องจากมีชายหาดเป็นแนวยาวที่สะอาด และกว้างขวางจนเป็นพื้นที่สำคัญหลักของเมืองพัทยาที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศจะเดินทางมาพักผ่อน
แต่จากการตรวจสอบสภาพชายหาดในช่วงที่ผ่านมานั้น พบว่า มีการเลื่อนไหลของแนวทรายในระยะกว้าง โดยพบว่าทรายส่วนใหญ่ถูกกระแสคลื่นซัดไปกองทับถมในพื้นที่เทศบาลตำบลนาจอมเทียนจำนวนนับหมื่นลูกบาศ์กเมตร ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของสิ่งก่อสร้างรุกล้ำ และการเคลื่อนตัวของกระแสคลื่นที่ปรับเปลี่ยนไป ซึ่งกรณีนี้หากเมืองพัทยายังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน และดำเนินการป้องกันที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้สภาพของชายหาดจอมเทียนมีสภาพคล้ายชายหาดพัทยาที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนถึงแนวสันเขื่อน จนทำให้แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญหายไป
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวชี้แจงว่า เรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ และเมืองพัทยาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งปัจจุบันหลังเข้าร่วมเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ อพท.ไปแล้ว ก็มีแผนในการพัฒนา และปรับปรุงพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน ได้รับงบประมาณสนับสนุนในหลายโครงการ เช่น การปรับสภาพภูมิทัศน์ชายหาดโรงโป๊ะ และชายหาดกระทิงลาย รวมทั้งโครงการพัฒนาปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ชายหาดพัทยา ซึ่งสอดคล้องกับแผนที่ทำร่วมกับกรมเจ้าท่า และศูนย์วิจัยทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะมาปรับปรุงและถมทะเลขนาดความกว้าง 50 เมตร ตลอดแนวชายหาดพัทยาในระยะ 3 กม.เพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเสนอแผนต่อคณะกรรมสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติ ก่อนขอจัดสรรงบประมาณลงมาดำเนินการในเร็ววันนี้
นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวสามารถรองรับปัญหาการกัดเซาะไปได้อีก 15-20 ปี ขณะที่ในส่วนของชายหาดจอมเทียนนั้น ก็กำลังจะนำเข้าสู่แผนของการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบ รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม โดยไม่ส่งผลสะท้อนไปถึงเรื่องของภูมิทัศน์ ผลกระทบด้านการท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
