ชาวสุโขทัยโอดน้ำท่วมบ้านพัง ซ้ำเจอหนี้ท่วมหัว

สุโขทัย - เหยื่อน้ำท่วมสุโขทัยโอดครวญหนัก เจอน้ำท่วมหนักครั้งล่าสุด 2 เดือนก่อนบ้านเรือนพัง-ทรัพย์สินเสียหายไม่พอ หมดทุนทำไร่ ทำนาต่อ เงินช่วยเหลือก็ยังไม่ได้ ต้องหันพึ่งเงินกู้นอกระบบมาต่อทุน จนหนี้ท่วม แถมยังต้องผวาถูกท่วมซ้ำอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุโขทัยวันนี้ (5 ก.ย.) ว่า แม้จะผ่านพ้นเหตุน้ำท่วมครั้งล่าสุดเมื่อเดือน มิ.ย. 55 มานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย คือ ต.ยางซ้าย ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องจากหนี้สินที่พอกพูนมากขึ้น และไม่มีทุนที่จะทำไร่นาครั้งต่อไป

นางรำไพ แก่นดอน อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 2 บ้านลัดทรายมูล ต.ปากพระ กล่าวว่า น้ำท่วมล่าสุดที่ผ่านมาบ้านของตนได้รับความเสียหายคิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 50,000-60,000 บาท เพราะทั้งเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เสื้อผ้า ที่นอน และอุปกรณ์การเกษตรโดนน้ำท่วมเสียหายหมด รวมทั้งแผ่นไม้กระดานพื้นบ้าน และไม้แขวนใบยาสูบก็ถูกน้ำซัดหายไปจำนวนมาก

“ที่บ้านน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ทำให้ต้องอพยพครอบครัวหนีมาอยู่ในเต็นท์ชั่วคราวที่ทางการจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งกลางวันอากาศร้อนมาก ส่วนกลางคืนฝนตก น้ำก็ไหลเข้ามาในเต็นท์ทำให้โคลนเลอะที่นอนไปหมด และต้องทนนอนลำบากอยู่เต็นท์ข้างถนนนานเกือบเดือนกว่าจะย้ายกลับเข้าบ้านได้อีกครั้ง”

นางรำไพกล่าวอีกว่า ตอนนี้ชาวบ้านจำเป็นต้องเข้าโครงการพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส.ทำให้ไม่มีสิทธิกู้เงินใหม่มาเป็นทุนทำกิน จึงต้องไปหากู้นอกระบบมาแทน ส่วนใครเป็นสามีก็ต้องออกไปทำงานก่อสร้างอยู่ต่างจังหวัดเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และไว้เป็นทุนทำไร่นาครั้งต่อไป ขณะที่ตนเองก็ไปหากู้เงินมาหลายหมื่นบาทเพื่อซื้อเครื่องครัว ที่นอนใหม่ กับเครื่องมือเกษตร และไม้ไผ่สำหรับใช้ทำเป็นที่แขวนตากใบยาสูบ

นางสาวกรกมล แก่นดอน อายุ 36 ปี (ลูกสาวนางรำไพ) กล่าวว่า สำหรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลมันทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่หลายคนก็จำใจรับเพราะคิดว่าดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ตอนนี้ชาวบ้านก็ยังหวั่นใจว่าน้ำก้อนใหญ่อาจมาท่วมซ้ำอีก ทำให้มีการเตรียมรับมือกันแล้ว โดยของมีค่าชิ้นใหญ่จะยังไม่ย้ายมาเก็บไว้ในบ้าน ส่วนภายในบ้านก็มีการทำชั้นวางของหนีน้ำไว้ด้วย

“ช่วงน้ำมาท่วมบ้านเป็นช่วงที่ฉันจะแต่งงาน พอเกิดเหตุก็เลยต้องเลื่อนมาแต่งในเดือนกันยายน 2555 นี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเจอน้ำท่วมอีกหรือเปล่า” นางสาวกรกมลกล่าว

นายทองคำ เอี่ยมทอง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ 5 ต.ยางซ้าย กล่าวว่า ที่บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ส่วนที่เสียหายหนักคือพื้นบ้านทรุด ตอนนี้จ้างช่างมาซ่อมเสียเงินไปแล้ว 37,000 บาท ยังไม่รวมความเสียหายของเครื่องยนต์รถไถนา เครื่องมือเกษตรอื่นๆ ปุ๋ย นาข้าว และของใช้ในบ้านอีกจำนวนมากที่เสียหาย และไหลไปกับน้ำ

“อยู่กันสองตายาย ช่วงน้ำมาขนของหนีกันไม่ทัน ของหายไปกับน้ำหมด และต้องไปอาศัยนอนอยู่ในเต็นท์ข้างถนน ลำบากมากอากาศก็ร้อน กลางคืนฝนก็ตก นอนไม่หลับเพราะรถวิ่งผ่านไปมาทั้งคืน ทุกวันนี้ก็อาศัยเงินผู้สูงอายุคนละ 600 บาทไว้กินไว้ใช้ ส่วนเงินช่วยเหลือน้ำท่วมที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่ารัฐจะให้ 8,200 บาท ก็ยังไม่ได้” นายทองคำกล่าว

ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า สำหรับเรื่องเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีการจ่ายให้ล่าช้านั้น เป็นเพราะการสำรวจความเสียหายโดยผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมา มีการร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้รับเงินช่วยเหลือไม่ตรงกับความเป็นจริง ทางอำเภอเมืองสุโขทัยจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่แท้จริง ของผู้ประสบภัยแต่ละรายอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบใหม่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมที่สุด