ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำแถลงผลการสกัดกั้นจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่ถูกจับกุมได้คาด่านตรวจ “เชียงราย-แพร่” ยาบ้าของกลางรวมกว่า 2 แสนเม็ด และยาไอซ์ 500 กรัม ระบุหากหลุดไปถึงพื้นที่ชั้นในจะมีมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เผยเตรียมเสนอตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดเพิ่มในพื้นที่ 3 จังหวัด ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา หวังเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้น
วันนี้(3 ก.ย.55) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ. 5)พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบช.ภ. 5 พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย(ผบก.ภ.จว.เชียงราย) พล.ต.ต.วิทยา เปล่งขำ ผบก.ภ.จว.แพร่ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ภาค 5 และกองกำลังผาเมือง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมากและทรัพย์สิน รวม 3 คดี
คดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชียงรายสามารถจับกุมนายอาโย จูเปาะ อายุ 22 ปี ชาวอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายณัฐพงศ์ อภิภักดี อายุ 18 ปี ชาวอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายพศิน พาเจริญเกรียงไกร อายุ 27 ปี ชาวอำเภอพบพระ จังหวัดตาก นายจ๊าง พาเจริญเกรียงไกร อายุ 23 ปี ชาวอำเภอพบพระ จังหวัดตาก และนายสมัย แซ่ เฮ่อ อายุ 19 ปี ชาวอำเภอพบพระ จังหวัดตาก พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนักรวมวัสดุห่อหุ้มประมาณ 500 กรัม ซึ่งถูกจับกุมช่วงเช้ามืดวันนี้(3 ก.ย.55)
ผู้ต้องหา 2 รายแรกถูกจับได้พร้อมของกลางที่ด่านตรวจท่าข้าวเปลือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ระหว่างนำของกลางไปส่งให้ผู้ต้องหาที่เหลือที่ห้างบิ๊กซีเชียงราย จึงขยายผลจับกุมได้ทั้งหมด
ขณะที่อีก 2 คดี เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดแพร่ โดยคดีแรกจับกุมตัวนายธีรศักดิ์ หล่อเสถียรธรรม อายุ 33 ปี และนายวรโชติ แซ่ย่าง อายุ 28 ปี ชาวอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 139,380 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ได้ที่จุดตรวจดงยาง ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ขณะที่ผู้ต้องหาขับรถจากอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มุ่งหน้าที่ไปอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
ส่วนอีกคดีจับกุมนายอภิรักษ์ แสนสืบตระกูลดี อายุ 45 ปี ชาวอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และนางสาววรดา แสงสว่าง ชาวอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ที่จุดตรวจดงยาง ระหว่างขับรถมุ่งหน้าที่อำเภอศรีสัชนาลัย เช่นเดียวกัน พร้อมของกลางยาบ้า 4,000 เม็ด รถกระบะ 1 คัน และโทรศัพท์ 2 เครื่อง ส่งทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสกัดและจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติดที่พยายามลำเลียงเข้าไปส่งยังพื้นที่กรุงเทพฯและภาคกลางได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีการร่วมมือประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ ทหาร และ ปปส.อย่างเข้มข้น ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดียิ่ง
อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ปริมาณยาเสพติดที่แพร่ระบาดในพื้นที่ชั้นในของประเทศลดลง และมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เฉพาะของกลางที่นำมาแถลงในครั้งนี้ หากหลุดไปถึงพื้นที่ชั้นในจะมีมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบลำเลียงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เตรียมที่จะเสนอขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ ให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นยาเสพติดให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป