xs
xsm
sm
md
lg

พิลึก! ชาวบ้านเมืองแพร่ไม่มีเงินทำบุญสร้างวัดตามมติ-เจอสั่งตัดน้ำเฉย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ - ยุคกฎหมู่เรืองอำนาจลามถึงชุมชนในเมืองแพร่ ล่าสุด มีการใช้มติเสียงส่วนใหญ่ สั่งตัดน้ำชาวบ้านที่ไม่ยอมร่วมทำบุญสร้างวัด แถมไม่ยอมรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน ก่อนกำนันจะใช้วิธีจี้ชาวบ้านยกมือหนุนแนวทางของกรรมการหมู่บ้านเฉย ด้านผู้ว่าฯ สั่งหาข้อเท็จจริงด่วนใน 7 วัน

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า ได้เกิดปัญหาในหมู่บ้านสันกลาง หมู่ 9 ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ ที่มีชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่สามารถหาเงินรายละ 2,000 บาท มาทำบุญสร้างวัดได้ตามมติของหมู่บ้าน จนส่งผลให้คณะกรรมการหมู่บ้านใช้อำนาจเข้าถอดมาตรวัดน้ำ และตัดการใช้น้ำของชาวบ้านที่ไม่มีเงินมาจ่าย

จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ไม่มีรายได้เพียงพอที่จะสมทบทุนทำบุญสร้างวัด ตามที่คณะกรรมการหมู่บ้านต้องการ และถ้ายังไม่มีเงินไปจ่ายอีกก็จะตัดเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ในหมู่บ้านต่อไป จนทำให้กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนร้องเรียนต่อศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง จ.แพร่ และนำเรื่องเสนอต่อนายเกษม วัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ

ล่าสุด คืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) นายวรรณ กุนัน กำนัน ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ นายพิสิทธิ์ ตาจา ส.อบต.หมู่ 9 อบต.ป่าแดง และกรรมการหมู่บ้าน พร้อมด้วยพระอธิการนิรุตต์ ธมมวํโส (ธรรมะวังโส) เจ้าอาวาสวัดสันกลาง ร่วมกันเรียกประชุมประชาชนในหมู่บ้านที่ศูนย์เรียนรู้โฉนดชุมชนของหมู่บ้าน โดยมีประชาชนมาร่วมประชุมจำนวน 70 คน เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

นายพิสิทธิ์ ตาจา ส.อบต.ป่าแดง ได้กล่าวกับผู้เข้าประชุมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อมเสียให้แก่หมู่บ้าน ซึ่งกว่า 7 ปีที่ผ่านมา หมู่บ้านสันกลางได้ร่วมกันทำงานจนทำให้คนภายนอกมองว่าเป็นชุมชนเข้มแข็ง สามารถต่อต้านอำนาจรัฐได้สำเร็จ ธนารักษ์จังหวัดแพร่ไม่กล้าเข้ามาเก็บค่าเช่าทั้งๆ ที่เป็นที่ดินของธนารักษ์ด้วยโครงการโฉนดชุมชน แต่การไปร้องเรียนดังกล่าวทำให้หมู่บ้านตกต่ำลง และสร้างความเสียหายอย่างมาก คนไม่กี่คนทำให้เกิดความเสียหายแก่คนส่วนรวม

จากนั้น นายวรรณ กุนัน กำนัน ต.ป่าแดง ได้เริ่มพิจารณาปัญหาการตัดมาตรวัดน้ำที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องของคณะกรรมการหมู่บ้าน ไม่ใช่เป็นเรื่องของกำนัน การตัดมาตรวัดน้ำเพราะมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบ และเมื่อจะไปต่อน้ำให้ใหม่ก็ต้องเสียค่าปรับอีก 2,000 บาท ซึ่งกฎระเบียบอยู่ที่คนส่วนใหญ่ กรณีของ น.ส.จารุณี ศรีสันต์ ที่ไม่จ่ายค่าน้ำ และค่าทำบุญ จึงถูกคณะกรรมการตัดมาตรวัดน้ำออกตามระเบียบหมู่บ้าน ซึ่งถ้าไม่จ่ายก็ต้องตัด และถ้าจะออกไปจากการบริหารจัดการน้ำในหมู่บ้าน หรือจะอยู่ต่อก็ไม่ว่าอะไร แต่ต้องนำเงินมาจ่ายตามเงื่อนไข

“การทำบุญนั้นเป็นมติของหมู่บ้าน และมีออกมานานแล้วถึงปีครึ่ง”

น.ส.จารุณี ศรีสันต์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166/14 หมู่ 9 บ้านสันกลาง อ.เมือง จ.แพร่ หนึ่งในผู้ถูกตัดมาตรวัดน้ำ พยายามจะชี้แจงว่า ตนไม่ได้ติดเงินค่าน้ำ แต่ที่ไม่ยอมจ่ายค่าทำบุญเพราะไม่มีเงินพอ ทุกวันหาเช้ากินค่ำ ซึ่งก็เหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าทำบุญ

อย่างไรก็ตาม ความพยายามชี้แจงของ น.ส.จารุณี ต่อหน้าคณะกรรมการ กลับไม่ได้รับความสนใจ และมองว่าเป็นการขัดขวางการพัฒนาหมู่บ้าน และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่หมู่บ้าน จึงได้ขอมติว่าให้มีการตัดน้ำต่อไป ซึ่งมีชาวบ้านยกมือไม่ถึง 10 คน แต่ประธานในที่ประชุมก็ไม่มีการถามผู้เข้าร่วมประชุม ว่า จะอนุญาตให้ต่อน้ำหรือไม่ ทำให้กลายเป็นมติตัดน้ำไปโดยปริยาย

พระอธิการนิรุตต์ ธมมวํโส (ธรรมะวังโส) เจ้าอาวาสวัดสันกลาง กล่าวกับชาวบ้านว่า วัดมีความจำเป็นที่ต้องสร้างกุฏิ วิหารเพื่อประกอบกิจทางศาสนาประจำหมู่บ้าน ชาวบ้านมีมติร่วมกันว่าจะต้องจ่ายเงิน 2,000 บาทต่อหลังเพื่อทำบุญก่อสร้าง แต่มาตรการดังกล่าวเป็นที่มาของความแตกแยกในชุมชน ก็อยากให้ยุติเรื่องเลิกแล้วต่อกัน ในส่วนตัวนั้นขอบิณฑบาตอย่าได้มีความขัดแย้งกันเลย ส่วนจะจ่ายให้หรือไม่อยู่ที่คณะกรรมการหมู่บ้าน ทางพระไม่ติดใจ

ด้านนายอำนวย พลหล้า กรรมการองค์กรพิทักษ์สิทธิประชาชนศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง จ.แพร่ เห็นว่า หมู่บ้านดังกล่าวยังคงใช้ความรุนแรงในการบริหารจัดการ ให้เป็นไปตามมาตรการที่ผู้นำต้องการ เป็นการใช้เสียงของผู้มีอำนาจ และไม่คำนึงถึงเสียงข้างน้อย อีกทั้งการตัดน้ำด้วยเหตุไม่ยอมร่วมทำบุญ จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่งกับการบริหารชุมชน เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้รับสิทธิในฐานะเป็นประชาชน เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนไทยต้องได้รับ อยากให้ศูนย์ดำรงธรรมเร่งทำความเข้าใจกรอบวิธีคิดด้านสิทธิมนุษยชนต่อผู้นำทุกชุมชนเพื่อให้ลดปัญหาการใช้เสียงข้างมากบังคับแบบละเมิดสิทธิ เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้นในสังคมไทย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของนายวิชิต บุญกังวาน นายอำเภอเมืองแพร่ ที่ได้ส่งปลัดอำเภอเข้าสอบสวนข้อเท็จจริง ตามที่นายเกษม วัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เร่งรัดให้มีการดำเนินการคลี่คลายปัญหาให้ได้ภายใน 7 วัน


กำลังโหลดความคิดเห็น