ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตร.ภ.2-ภ.5 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลัง 300 นายเข้าตรวจค้น 19 จุดต้องสงสัยในเชียงใหม่-เชียงราย หลังสืบทราบพบเครือข่ายค้ายาภาคเหนือโยงใยเครือข่ายยาเสพติดภาคตะวันออก รวบ 4 ผู้ต้องหาพร้อมยึดทรัพย์อีกร่วม 100 ล้าน เผยจับแก๊งค้ายาที่ชลบุรีปีก่อน จากนั้นขยายผลต่อจนทราบมีเครือข่ายเหนือเกี่ยวข้องจึงสนธิกำลังเข้าจับกุมได้
วันนี้ (30 ส.ค.55) ที่สำนักงานป้องกันละปรามปรามยาเสพติดภาค 5 จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จาก ตร.บช.ภ.2, ตร.บช.ภ.5, ป.ป.ง.. ศพส.ชน., ป.ป.ส.ภาค 2, ป.ป.ส.ภาค 5 และกกล.ผาเมือง ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหาและทรัพย์สินจำนวนมากที่ทำการอายัดได้มาแถลงข่าวต่อเสื่อมวลชน ภายหลังหน่วยงานทั้งหมดได้สนธิกำลังรวม 300 นาย เข้าปฏิบัติการปิดล้อมและตรวจค้นจับกุมบุคคลตามหมายจับคดียาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และ จ.เชียงรายรวม 19 จุดในวันนี้ หลังจากทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออก
การปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ได้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. โดยทุกหน่วยงานได้เข้าปฏิบัติการพร้อมกันในพื้นที่เป้าหมายทั้ง 19 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ 3 จุด และจังหวัดเชียงราย 16 จุด ผลจากการปฏิบัติงานสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 4 ราย ประกอบด้วยนายวีระ เจิมไทย นางสาวสุกาญจนา พูลเพิ่ม นางกรวรรณ เจิมไทย หรือบังอร เมืองวงค์ และนางอ่อง ลงใจ พร้อมด้วยทรัพย์สินซึ่งประกอบด้วยโฉนดบ้านและที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เงินสด ทองรูปพรรณ ปืน โทรศัพท์ และอื่นๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินในเบื้องต้นทั้งสิ้นประมาณ 50 ล้านบาท โดยทรัพย์สินทั้งหมดที่ตรวจยึดได้อาจมีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.สส.ภ.2 เปิดเผยว่า การสนธิกำลังของหน่วยงานต่างๆ ในการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการขยายผลการสืบสวนของ ตร.บช.ภ.2 ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 2 และ ป.ป.ง. หลังจากเมื่อเดือน ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัวนายธนบูรณ์ แพงแฮด พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวนหนึ่ง และขยายผลยึดทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ได้ที่ จ.ชลบุรี
ต่อมาจากการให้การของนายธนบูรณ์และการสืบสวนขยายผล พบว่าเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายธนบูรณ์มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือที่ทำหน้าที่ส่งยาเสพติดให้ ต่อมาสืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีนายแสง ลงใจ หรือเจริญ จตุพรพิชญ์เป็นหัวหน้า และเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และ จ.เชียงราย จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูธรภาค 5 ก่อนจะวางแผนและสนธิกำลังเข้าปฏิบัติการดังกล่าว อย่างไรก็ตามในการปฏิบัติการครั้งนี้นายแสงสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
พ.ต.อ.ธีรพล ระบุว่า จากการตรวจสอบการทำธุรกรรมทาการเงิน พบว่าเครือข่ายของนายแสงที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ นอกจากจะเชื่อมโยงกับเครือข่ายของนายธนบูรณ์แล้ว ยังมีความเชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคตะวันออกและในเรือนจำจังหวัดระยองอีกด้วย ขณะเดียวกันยังพบว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับหลักฐานทางราชการของกลุ่มผู้ต้องหา และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการสวมบัตรประชาชนเกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการสอบสวนและติดตามตัวนายแสงมาดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้งหมดในวันนี้จะนำตัวไปดำเนินคดีที่ จ.ชลบุรีต่อไป