xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.จับนักค้ายาลำดับที่ 6 ค่าหัว 5 แสน ยึดทรัพย์ 61 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ปฏิทินนำจับนักค้ายาของ ป.ป.ส.
“เหลิม” นำทีมแถลงจับนักค้ายาเสพติดลำดับที่ 6 จาก 25 หมายจับ ค่าหัว 5 แสนบาท ยึดเงินสด 4 ล้าน รถยนต์ 4 คัน จยย.2 คัน สมุดบัญชีเงินฝาก 9 เล่ม ที่ดิน ทอง และม้าอีก 2 ตัว รวมมูลค่า 61 ล้านบาท ตร.ระบุตามจับได้จากเบาะแสสายด่วน 1386 ที่ ปชช.โทร.แจ้ง ขณะที่ “เหลิม” เชื่อเครือข่ายยาเสพติดจะมีการฆ่าตัดตอนกันเอง เหน็บนักสิทธิมนุษยชนที่มาคัดค้านแก้กฎหมายไม่ให้มีการประหารพวกค้ายา

วันนี้ (17 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดินแดง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศพส.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. นายณรงค์ รัตนานุกูล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 นายสุขุม โอภาสนิพัทธ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.ว.เชียงราย และนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 ร่วมแถลงการจับกุม นายชินวัชร์ หรือบอส หรือเอส นัยตรีมิตร อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 268/2554 ลงวันที่ 29 ก.ค. 2554 ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (เฮโรอีน และเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลาง เงินสด 4,000,000 บาท รถยนต์ 2 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน จักรยานยนต์เอทีวี 2 คัน สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 9 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม บัตรมาสเตอร์การ์ดจำนวนหลายใบ โฉนดที่ดิน จ.นนทบุรี 3 แปลง บ้านและที่ดิน จ.นครราชสีมา 1 แปลง ม้า 6 ตัว ทองรูปพรรณ พระเครื่อง โทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่า 61 ล้านบาท

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายชินวัชร์เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ ป.ป.ส.ในคดียาเสพติดลำดับที่ 6 จาก 25 หมายจับ มีเงินรางวัลนำจับ 500,000 บาท ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ที่ลำเลียงยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด แต่ตำรวจมีหลักฐานไม่อย่างนั้นศาลคงไม่อนุมัติออกหมายจับให้

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายาเสพติดยังมีอีกหลายคนที่หลบหนีอยู่จะติดตามจับกุมมาให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ สื่อต้องช่วยกันนำเสนอภาพถ่ายของผู้ต้องหา ซึ่งสื่อมีความสำคัญอย่างมาก เหมือนกรณีนี้ที่จับได้ก็เพราะเห็นจากสื่อนำเสนอ หลังจากนี้จะติดตามยึดทรัพย์มาให้หมด ยืนยันตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วนถึงออกหมายจับ และด้วยเหตุนี้เองถึงบอกว่าต้องแก้กฎหมายใหม่ให้มีการประหารพวกค้ายาเสพติด แต่ทางนักสิทธิมนุษยชนต่างพากันออกมาคัดค้าน แต่ไม่เป็นไรซึ่งเราต้องทำกันจริงจังอย่าง

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พวกเครือข่ายค้ายาเสพติดจะมีการฆ่าตัดตอนกันเอง เพราะพวกนี้จะคิดว่ามีการหักหลังกันเองหลังจากที่ตำรวจจับได้บ่อยๆ ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากสายข่าว จึงอยากจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้เลิกตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นอาจถูกฆ่าตัดตอน หากถูกจับกุมก็จะถูกตามยึดทรัพย์และดำเนินคดีจนถึงที่สุด

“กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นเป้าหมายหลักของยาเสพติด ดังนั้น หลังจากนี้จะเข้าไปที่ บช.น.เพื่อกำชับตำรวจให้เข้มงวดให้มาก โดยเฉพาะตามแหล่งสถานบันเทิง ห้ามเปิดเกินเวลา ซึ่งพวกนี้ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ หากไม่ร่วมมือก็ให้จับและสั่งปิดให้หมด ตั้งแต่นี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องตรวจค้นเข้มงวดโดยเฉพาะเด็กอายุไม่ถึง 20 ปีห้ามเข้า รวมทั้งเรื่องปืน และยาเสพติดด้วย” รองนายกฯ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวด้วยว่า นายชินวัชร์เป็นผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 3 คดีที่เราจับกุมได้ก่อนหน้านี้และยึดทรัพย์สินมาได้กว่า 30 ล้านบาท และครั้งนี้เรายึดทรัพย์สินมาได้อีกกว่า 60 ล้านบาท รวมแล้วยึดมาได้ประมาณ 90 ล้านบาท จึงต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยกันนำเสนอภาพคนร้ายตามหมายจับ ที่จับกุมได้ครั้งนี้เพราะชาวบ้านเห็นภาพจากสื่อเลยโทรศัพท์เข้ามาแจ้งที่สายด่วน 1386 ทาง ป.ป.ส. จึงประสานกับ พล.ต.ท.ภาณุ วางแผนจับกุมคนร้ายรายนี้เอาไว้ได้ในที่สุด
ร.ต.อ.เฉลิม เข้าสอบปากคำนายชินวัชร์ หรือบอส หรือเอส นัยตรีมิตร อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับลำดับที่6 ค่าหัว 5 แสนบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น