ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เดินหน้าตรวจ “ปืน 9 มม.” ควานหามัจจุราชปลิดชีพลูก ส.ส.อุทัยธานี เผยเรียกตรวจสอบแล้ว 19 กระบอก ยังไม่พบหลักฐานตรงกับปลอกกระสุนที่ก่อเหตุ ล่าสุดถอดไฟท้ายรถมิตซูฯ ต้องสงสัยส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจละเอียด คาดรู้ผลสัปดาห์หน้า ด้านผู้การฯ โคราชระดมสรรพกำลัง ตร.ทุกหน่วยเร่งสางคดีเต็มที่ ระบุปืนคนร้ายเป็น 9 มม.แบบพิเศษ ยันมีข่าวดีเร็วๆ นี้แน่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 27 ปี ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เสียชีวิตคารถยนต์ บริเวณถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ในท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.หญิง อารีรัตน์ ริมใหม่ นักวิทยาศาสตร์ กลุ่มงานตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้นำอาวุธปืนขนาด 9 มม. รุ่นเบเลตตา, ลูเกอร์ และซีแซด มาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ฯ ได้ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มอีก 7 กระบอก จากเดิมที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบไปก่อนหน้านี้แล้ว 12 กระบอก รวมการตรวจอาวุธปืนจนถึงขณะนี้จำนวน 19 กระบอก
ทั้งนี้ มีเป้าหมายเรียกตรวจสอบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ขึ้นทะเบียนไว้เฉพาะในเขตพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กว่า 100 กระบอก ส่วนทั้งจังหวัดนครราชสีมามีจำนวนกว่าหมื่นกระบอก
จากการทดลองยิงและเก็บปลอกกระสุนทำการตรวจ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องขยายขนาดใหญ่กว่าของจริง 30 เท่า เปรียบเทียบกับปลอกกระสุนของคนร้ายที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุ โดยทำการเปรียบเทียบตำหนิ 3 จุด ได้แก่ ตำหนิรอยเข็มแทงชนวน ตำหนิรอยลายเส้นที่จานท้ายปลอกกระสุน และตำหนิรอยเหล็กคัดปลอก ยังไม่พบอาวุธปืนกระบอกใดที่ตรงกับปลอกกระสุนที่ใช้ประกอบเหตุยิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ เสียชีวิตแต่อย่างใด
ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราดา สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผม 1234 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับที่พยานให้การไว้และจากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณไฟท้ายด้านซ้ายของตัวรถมีรอยเป็นรูโหว่ 1 รู ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร ซึ่งคล้ายรูกระสุนปืนนั้น ล่าสุดได้ถอดกรอบไฟท้ายดังกล่าวส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานกลาง กรุงเทพมหานคร อย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนผลการตรวจคราบเขม่าดินปืนภายในรถยนต์คันดังกล่าว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทราบผลการตรวจอย่างละเอียด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถยนต์คันดังกล่าวส่งคืนให้พนักงานสอบสวน สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้เร่งทำงานเพื่อสางคดีนี้อย่างเต็มที่ โดยกระจายสรรพกำลังที่มีอยู่มาทำคดีนี้ให้รอบด้านมากที่สุด ซึ่งได้มีการแบ่งชุดสืบสวนออกหาข่าวตามที่มีข้อมูลทุกจุด ซึ่งหลังจากชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทางฝ่ายผู้ตายแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างมีเป้าหมายและแคบลง โดยเฉพาะการติดตามอาวุธปืน
จากการตรวจสอบพบว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืน 9 มม.แบบพิเศษ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน เพราะหากเปิดเผยไปมากเกรงว่าคนร้ายจะรู้ความเคลื่อนไหวในการทำงานของเจ้าหน้าที่ และยิ่งจะเป็นการยากในการทำงานอีก
“ขอให้มั่นใจว่าตำรวจโคราชจะไม่ลดละในการติดตามตัวคนร้ายในคดีนี้มาลงโทษให้ได้ และคาดว่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้แน่นอน” พล.ต.ต.องอาจกล่าว