สศูนย์ข่าวศรีราชา - กะเทาะเปลือก! “สุรศักดิ์ ปั้นเคลือบ” เปิดวิสัยทัศน์นายกเชพเมืองพัทยา และจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก พร้อมนำพาองค์กรและสมาชิกสู่มาตรฐานสากลรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เผยผลักดันและพัฒนาคุณภาพคนอย่างต่อ เนื่องเพื่อ “ฝีมือไม่ตก” พินิจวงการอาหาร เครื่องดื่ม คนโรงแรม ผ่านมุมมองประสบการณ์ 30 กว่าปี ยังเชื่อ “ความรู้” ต้องควบคู่ไปกับ “ชั่วโมงบิน”
สุรศักดิ์ ปั้นเคลือบ นายกสมาคมเชฟเมืองพัทยาและจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก เปิดเผยมุมมองประสบการณ์ด้านอาหาร และโรงแรมที่รู้จักและคลุกคลีมากว่า 30 ปี กับ “ผู้จัดการออนไลน์-ศูนย์ศรีราชา” ว่า ปัจจุบันนคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องอาหารกันอย่างชัดเจนมากขึ้น สังเกตได้จากมีสื่อหลากหลายประเภทนำเสนอความรู้เรื่องอาหารเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เรื่องอาหารถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ คุณภาพในการทำอาหารของสถานประกอบการในเมืองท่องเที่ยวจึงเป็นส่วนสำคัญในการรับหน้าเสื่อเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และถือเป็นตัวแทนประเทศชาติ ดังนั้น ทั้งคุณภาพของรสชาติจึงเป็นเรื่องที่บุคลากรด้านอาหารควรหมั่นพัฒนา และเก็บเกี่ยวความรู้เพิ่มเติมเพื่อต่อยอดพัฒนาฝีมือของตนเองอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
“สมาคมเชฟเมืองพัทยาและจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากเมืองพัทยา และหน่วยงานบริหารราชการท้องถิ่นในพื้นที่ มาตรฐาน คุณภาพและชื่อเสียงของทีมเชฟเมืองพัทยาจึงถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพด้านอาหารอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ทำให้ระบบการทำงานของสมาคมและทีมเชฟเมืองพัทยาขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี”
นายกเชฟเมืองพัทยาและจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก เผยด้วยว่า ที่ผ่านมามีการจัดอบรมให้ความรู้ด้านอาหารแก่สมาชิกในสมาคมมาโดยตลอด เช่น จัดอบรมการทำอาหารและพัฒนารสชาติอาหารรัสเซีย รับเทศกาลการท่องเที่ยวที่จะมาถึงเพราะเมืองพัทยาจะมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามาเป็นจำนวนมากช่วงประมาณปลายปี ซึ่งได้มีการจัดฝึกอบรมไปแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งอนาคตจะพัฒนาองค์กรไปสู่ระดับสากลที่เทียบชั้นกับเชฟนานาชาติ
นอกจากนี้ หากมีรายการแข่งขันเรื่องอาหารไม่ว่ารายการใด ทีมเชฟพัทยาก็จะส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันแทบทุกรายการเพื่อต่อยอดพัฒนาฝีมือของเชฟให้คงที่ หรือดีขึ้น คุณภาพและฝีมือของเชฟเมืองพัทยาก็จะมีประสิทธิภาพแข็งแกร่ง โดยในปี 2558 ที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เชฟเมืองพัทยาก็ต้องพัฒนาไประดับสากลให้ได้ เพราะจะมีแรงงานเสรีเข้ามาทำงาน จะเป็นการวัดคุณภาพและฝีมือของคนวงการเชฟระดับนานาชาติ
“รายการต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งโครงการเค้กเฉลิมพระเกียรติ มหกรรมคนโรงแรมภาคตะวันออก งานเทศกาลกินเจเมืองพัทยา และอีกหลายงานที่ทางสมาคมเชฟเมืองพัทยา และจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออกเข้าร่วม ถือเป็นการส่งเสริมการพัฒนาการเรียนรู้ด้านอาหาร ถือเป็นเรื่องโชคดีที่เราเข้าถึงผู้บริหารท้องถิ่นได้ง่าย และได้รับการสนับสนุนด้วยดีเสมอมา การทำงานด้านอาหารการมีพื้นฐาน ความรู้ถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ธรรมชาติของอาหารจะวัดกันที่ ลิ้น คือวัดกันที่ รสชาติ ประสบการณ์ หรือ ชั่วโมงบินก็เป็นเรื่องสำคัญควบคู่ไปกับองค์ความรู้ หยุดพัฒนาไม่ได้ ถ้าเราหยุดเราจะล้าหลังทันที เรื่องอาหารต้องเดินหน้าตลอด พัฒนาตลอด”