xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจพัทยา หวังประชุม ครม.สัญจร ลบภาพคนเสื้อแดงล้มประชุมอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา- นักธุรกิจพัทยา หวัง ครม.สัญจรจังหวัดชลบุรี จะช่วยให้มีการยกระดับระบบสาธารณูปโภค และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อย่างพัทยา พร้อมวอนคณะผู้จัดการประชุมให้ตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน-และไม่ให้มีการนำกองเชียร์มาเอาใจนักการเมือง หวั่นย้อนภาพทำร้ายความรู้สึกเหตุคน “เสื้อแดงล้มประชุมอาเซียน”

น.ส.บุญฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เผยว่า การประชุม ครม.สัญจร ที่จะมีขึ้นที่เมืองพัทยาในระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้ จะทำให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาดีขึ้น ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลชุดดังกล่าวได้รับการยอมรับในเรื่องของงานด้านการตลาด และการสร้างภาพลักษณ์ ทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยามีความหวังว่า การเดินทางมาของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะทำให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจกับการสร้างภาพลักษณ์ทางการตลาด เพื่อยกระดับการเป็นจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น

นอกจากนั้น สิ่งที่นักธุรกิจในภาคตะวันออก ต้องการเห็นการพัฒนาพื้นที่จากการจัดประชุม ครม.สัญจร ก็คือ 1.การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ และการพัฒนาถนนหนทางอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการจัดทำโครงการรถไฟความเร็วสูงให้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อให้เป็นโครงการนำร่องให้แก่จังหวัดอื่นๆ เนื่องจากระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

2.การยกระดับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา ให้เป็นสนามบินสำรองของกรุงเทพฯ หากเกิดเหตุต่างๆ ขึ้นกับสนามบินสุวรรณภูมิ และขอให้ ครม.ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพการให้บริการที่เต็มศักยภาพของสนามบิน

3.การส่งเสริมเรื่องการจัดทำแผนท่องเที่ยว เพื่อสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้แก่เมืองพัทยา และภาคตะวันออกทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมทั้งการโปรโมตด้านการท่องเที่ยวอย่างจริงจังให้แก่พื้นที่

ด้านนายสุรัตน์ เมฆะวรากุล ผู้บริหารธุรกิจในเครือไมค์กรุ๊ป พัทยา เผยว่า การเดินทางมาพัทยาของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ สิ่งที่นักธุรกิจเมืองพัทยาต้องการเห็นมากที่สุดก็คือ การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ และการปรับระบบการจราจรบริเวณถนนสุขุมวิท เนื่องจากเมืองพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ถนนสุขุมวิท ยังเป็นเส้นทางผ่านไปยังจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก ทั้ง ระยอง จันทบุรี และตราด ทำให้มีปริมาณยานพาหนะที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งยังไม่มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ก็อาจกระทบถึงภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้จนยากจะแก้ไข

ทั้งนี้ ในมุมมองส่วนตัวแล้ว ตนเองต้องการให้นายกรัฐมนตรีคำนึงถึงความรู้สึกของชาวเมืองพัทยา ที่ต้องการเห็นบรรยากาศการจัดประชุมในพื้นที่เป็นไปอย่างเรียบง่าย และไม่มีกลุ่มผู้สนับสนุน หรือกองเชียร์ที่มีการขนคนมาแห่ต้อนรับ เพราะที่ผ่านมา ภาพความเจ็บช้ำและความเสียหายทางธุรกิจที่เกิดจากการที่กลุ่มคนเสื้อแดง ล้มการประชุมอาเซียนซัมมิทเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในความรู้สึกของประชาชน และกลุ่มธุรกิจในเมืองพัทยาแทบทุกราย

“ปัจจุบัน ภาพดังกล่าวค่อยๆ จางหายไปจนนักท่องเที่ยวเริ่มลืม และเมืองพัทยาก็ดำเนินวิถีเมืองท่องเที่ยวจนเข้ารูปเข้ารอยแล้ว เกรงว่าหากมีการขนกองเชียร์จำนวนมากมาให้การต้อนรับในการประชุม ครม.สัญจรที่เมืองพัทยาอีก ก็ยิ่งจะเป็นการสร้างภาพย้ำเหตุการณ์เดิมๆ ที่เคยทำร้าย และทำลายความรู้สึก และระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคในช่วงนั้นขึ้นมาอีก” นายสุรัตน์ กล่าว

เช่นเดียวกับ นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ผู้บริหารโรงแรมในเครือซันไชน์ พัทยา ที่เผยว่า เมืองพัทยาได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในแง่ของการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคเอกชนก็มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกจิ และสามารถนำพาธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ แม้ที่ผ่านมา จะเกิดเหตุการณ์กระทบหลายด้าน จึงอยากฝากให้รัฐบาลให้ความสำคัญของเมืองท่องเที่ยว เพราะเป็นแหล่งทำรายได้เข้าประเทศ โดยให้มุ่งเน้นมาตรการ และนโยบายในการเอาใจใส่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในสายตาของนานาชาติ

อย่างไรก็ดี รัฐบาลควรสร้างความเป็นเสถียรภาพทางการเมือง สร้างความสงบเรียบร้อยทางการเมืองให้ชัดเจน ไม่แบ่งสีแบ่งฝ่าย ซึ่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล ส่งผลกระทบให้เกิดความแตกแยก ขณะที่เมืองพัทยาได้รับผลกระทบในเรื่องของการล้มประชุมอาเซียน และการปิดสนามบิน และถ้ารัฐบาลบริหารจุดนี้ได้ก็จะเป็นเรื่องดีต่อทุกฝ่าย

ด้านนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ ผู้บริหาร บริษัท แผ่นดินทองพัฒนาที่ดิน จำกัด กล่าวว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองที่กำลังขยายตัว และเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น รัฐบาลควรบริหารจัดการด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ให้สามารถรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคต เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญที่เชื่อมต่อระบบธุรกิจ และเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยต้องเร่งพัฒนาโครงการก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงก์จากสุวรรณภูมิมาสู่เมืองพัทยา และจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออกให้เป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ การจัดระเบียบชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยหรือมาพักผ่อนในเมืองท่องเที่ยว ก็ควรมีนโยบายที่ชัดเจน โดยขอให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอเพื่อสอดส่องดูแล และติดตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวคุณภาพต่ำที่ส่งผลลบต่อเมืองท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการหารูปแบบพัฒนาเมืองท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบต่อไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น