สภา มรภ.อุตรดิตถ์สั่ง ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ฯ พ้นตำแหน่ง เซ่น “ควายเผือกบุญมา” หาย

อุตรดิตถ์ - สภา มรภ.อุตรดิตถ์ แถลงการณ์ 7 ข้อกรณี “ควายเผือกบุญมา” สั่งให้ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ฯ พ้นจากตำแหน่ง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน นายกสภา มรภ.อุตรดิตถ์รับเป็นเรื่องใหญ่กระทบความรู้สึกคนจำนวนมาก ส่วนการติดตามหา “บุญมา” ยังคว้าน้ำเหลว

จากกรณีที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ร่วมกับเพื่อน 4 คน นำควายเผือกเพศผู้ชื่อบุญมา มาบริจาคให้แก่ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ เพื่อให้ทำการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ แต่ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยกลับนำไปแลกกับควายเพศเมียแม่ลูก 2 ตัวของชาวบ้าน ทำให้ น.ส.นัทวรณณไม่พอใจ และร้องเรียนจนเป็นข่าวครึกโครม รวมทั้งยังคงออกติดตามค้นหาแม้ว่าควายบุญมาอาจจะเสียชีวิตไปแล้วนั้น

ล่าสุด ในวันนี้ (28 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ชั้น 5 อาคารภูมิราชภัฏ ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้เรียกประชุมด่วนกรรมการสภา มรภ.อุตรดิตถ์ทั้ง 24 คน พร้อมทั้งเชิญ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ เข้าให้ปากคำนานกว่า 30 นาที แต่ไม่มีการเชิญ น.ส.นันทวรรณ เข้าร่วมการประชุมแต่อย่างใด

ภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง สภามหาวิทยาลัยราชภัฏได้ออกแถลงการณ์กรณีควายเผือกบุญมา โดยได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อแสดงความรับผิดชอบ นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ได้เสนอต่อสภามหาวิทยาลัยรวม 7 ข้อ

ประกอบด้วย 1. สั่งการให้นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ หยุดปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ดูแลโครงการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย จนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ 2. แต่งตั้งคณะกรรมการข้อสวนข้อเท็จจริง โดยให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน หากมีมูลความผิด จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

3. แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาควายเผือกบุญมา โดยมี น.ส.นันทวรรณ เป็นคณะกรรมการด้วย โดยคณะกรรมการที่แต่งตั้งจะเป็นบุคคลที่ น.ส.นันทวรรณเสนอมาก็ได้ รวมทั้งจะอำนวยความสะดวกในการสืบหาควายเผือกบุญมาอย่างเต็มที่ 4. ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาควายเผือกบุญมาร่วมกับคณะกรรมการที่ น.ส.นันทวรรณเสนอแต่งตั้งขึ้น

5. หากผลการสืบหาควายบุญมาประสบความสำเร็จ และมีความประสงค์จะซื้อคืน อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยเงินส่วนตัว 6. ปรับปรุงระบบการบริหารงานของโครงการอนุรักษ์กระบือไทย ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ 7. ในการดำเนินการข้างต้น อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ จะรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรให้คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยทราบทุกระยะ

ศ.ดร.เกษม กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และละเอียดอ่อนมาก เพราะมีผลกระทบต่อจิตใจของคนทั่วไป ยอมรับว่าอาจารย์รุ่นใหม่ของ มรภ.อุตรดิตถ์ มักจะไม่ค่อยศึกษากฎหมาย หรือระเบียบในการปฏิบัติ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น ซึ่งต่อไปจะกำชับให้ศึกษาระเบียบต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับควายบุญมา ขอให้เป็นความผิดพลาดครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายที่จะไม่มีเกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ จะทำการชี้แจงต่อสื่อออนไลน์ทุกสื่อที่นำเสนอเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า จะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานใน มรภ.อุตรดิตถ์ของ น.ส.นันทวรรณอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภา มรภ.อุตรดิตถ์ครั้งนี้มีการหารือเรื่องควายเผือกบุญมาเพียงวาระเดียว โดยก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ทาง มรภ.อุตรดิตถ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนมาทำหน้าที่เฝ้าหน้าห้องประชุม และคอยห้ามไม่ให้สื่อมวลชนที่ติดตามเรื่องนี้เข้าห้องประชุม

ด้านความเคลื่อนไหวล่าสุดของ น.ส.นันทวรรณ ในการติดตามหาควายเผือกบุญมานั้น มีรายงานว่า น.ส.นันทวรรณได้เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เช้าพร้อมกับบิดาคือ นายชาญชัย เทพรักษา หลังได้รับการติดต่อประสานจากพ่อค้าวัวควายที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก แต่ก็ไม่พบความเผือกบุญมา จากนั้นทั้งสองเดินทางต่อไปที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อติดตามควายเผือกบุญมา แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด