จวก มรภ.อุตรดิตถ์ สอบเรื่อง “ควายบุญมา” แต่ถามนอกเรื่อง-แถมมีแต่คู่อริคนบริจาค

อุตรดิตถ์ - พ่อเจ้าของควายเผือก “บุญมา” ร้องเปลี่ยนตัวคณะกรรมการสอบฯ ชี้มีแต่คู่กรณีลูกสาว ขณะที่เจ้าตัวเผยถูกเชิญเข้าให้ข้อมูล แต่กลับถามสื่อเสนอข่าวนี้ต้องการอะไรจาก มรภ.อุตรดิตถ์ พร้อมขอ ตร.ชาติตระการ หิ้วคนค้าวัวรายใหญ่สอบ เชื่อควายเผือกยังอยู่ในครอบครอง แต่ไม่ยอมร่วมมือทั้งที่รับปากนำควายคืนใน 2 วัน

รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า ที่ห้องประชุม เอ 512 ชั้น 5 อาคารภูมิราชภัฎอุตรดิตถ์ เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) ผศ.ดร.สัมพันธ์ รอดพึ่งครุฑ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่มติของสภา มรภ.อุตรดิตถ์ตั้งขึ้น ได้เชิญ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา พนักงาน (อาจารย์จ้างสอน) คณะเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม มรภ.อุตรดิตถ์ มาให้ข้อมูลกรณีนำควายเผือกบุญมา ที่มีลักษณะเด่นเป็นสีชมพูทั้งตัว ไปบริจาคให้แก่ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์

โดยมีนายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาหาความรู้แก่นักเรียน ประชาชน และเพื่อการอนุรักษ์ขยายพันธุ์ต่อไป แต่ศูนย์นำควายเผือกบุญมาไปแลกกับชาวบ้านโดยไม่อนุญาตให้นายชาญชัย เทพรักษา บิดาของ น.ส.นันทวรรณ เข้าร่วม

หลังจาก น.ส.นันทวรรณ เข้าให้ข้อมูลนานกว่า 2 ชั่วโมง ได้บอกว่า ให้ข้อมูลความจริงตั้งแต่การได้มาของควายเผือกบุญมาว่ามาจากไหน นำมาเลี้ยงดูแลอย่างดีกี่ปี จากนั้นก็นำมาบริจาคให้แก่ศูนย์ฯ โดย ผศ.ดร.สิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ออกหนังสือการรับมอบให้อย่างถูกต้อง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการบริจาค ความพยายามอยากพบ และเจอควายเผือกบุญมา หลังบริจาคมาแล้ว แต่ถูกบ่ายเบี่ยงจากผู้รับผิดชอบ การทำหนังสือขอคำชี้แจงจาก มรภ.ว่าควายเผือกบุญมาอยู่ที่แห่งใดกันแน่ จนกระทั่งทราบว่า นายวิรัตน์ นำไปแลกกับควายของชาวบ้าน 2 ตัว และการติดตามควายเผือกกลับคืนมา

“ไม่ค่อยแน่ใจในคณะกรรมการชุดดังกล่าว เนื่องจากไม่รู้จักใครเลยแม้แต่คนเดียว คณะกรรมการชุดนี้พยายามถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับควายเผือกบุญมา โดยเฉพาะถามว่า การที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเรื่องนี้ สื่อมวลชนต้องการอะไรจาก มรภ.อุตรดิตถ์ ซึ่งก็ตอบไปว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องควายเผือกบุญมา จึงไม่ตอบ อย่างไรก็ตาม จะหารือกับคุณพ่อว่าจะเป็นเปลี่ยนตัวคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนดีหรือไม่ ยอมรับว่าหลังออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้แล้วมีคนให้กำลังใจมาก และส่วนใหญ่เห็นว่าคนที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของควายเผือกบุญมาทำไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง” น.ส.นันทวรรณกล่าว

ขณะที่คณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวน น.ส.นันทวรรณนานกว่า 2 ชั่วโมงนั้น นายชาญชัย ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมให้ข้อมูลกับลูกสาวเกิดความไม่พอใจ เปิดประตูเดินเข้าไปจูงมือลูกสาวออกมา พร้อมกล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นล้วนแต่เป็นคู่กรณีของลูกสาวทั้งนั้น ดังนั้น จึงไม่แน่ใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม จะทำหนังสือถึง ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภา มรภ.อุตรดิตถ์ เพื่อขอเปลี่ยนตัวคณะกรรมการชุดใหม่ที่มีความเป็นกลาง ปลอดจากอาจารย์ และครูใน มรภ.อุตรดิตถ์

นายชาญชัย กล่าวว่า ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เพื่อขอความร่วมมือให้นำตัวผู้ค้าวัวควายรายใหญ่รายหนึ่งในพื้นที่มาทำการสอบสวน เพราะเชื่อว่าควายบุญมายังอยู่ในการครอบครองของผู้ค้ารายนี้อย่างแน่นอน แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ และให้ข้อมูลแก่ตนเอง ทั้งที่รับปากแล้วว่าภายใน 2 วันจะนำตัวควายเผือกบุญมากลับคืนมาให้ แต่หลังจากสอบถามแล้วกลับบ่ายเบี่ยงไม่ให้ข้อมูลเลย