โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ส.อบจ.พิจิตรดุเดือด เด็ก ปชป.ฟัดกับ พท.

พิจิตร - เจาะสนามเลือกตั้ง ส.อบจ.เมืองชาละวัน โค้งสุดท้ายหลายเขตเลือกตั้งแข่งดุ พบเด็กเครือข่าย ส.ส.เพื่อไทย-คนเสื้อแดงเปิดหน้าชนคนในเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์เต็มที่

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่า บรรยากาศการแข่งขันหาเสียงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ส.อบจ.พิจิตรดุเดือดขึ้น หลังจากที่ กกต.พิจิตรประกาศให้วันที่ 29 ส.ค. 55 เป็นวันเลือกตั้ง ส.อบจ.30 เขต ซึ่งมีผู้สมัครที่ต้องแข่งขันกันถึง 15 เขต อีก 15 เขตไม่มีคู่แข่ง

แต่ปรากฏว่าเขตที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดมีถึง 5 เขต ในพื้นที่ อ.สามง่าม อ.วชิรบารมี อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.ทับคล้อ ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแข่งกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ โดย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่ส่งน้องชายและหลานชาย รวมถึงแกนนำคนเสื้อแดงลงสมัครแข่งขัน เจอกับลูกน้องและน้องชายของนายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต รมว.แรงงาน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์

ล่าสุดทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยประกาศจะเอาชนะทั้ง 5 เขตที่มีการแข่งขัน จึงได้ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ดุเดือดไม่แพ้การเลือกตั้ง ส.ส. โดยส่งนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ “แซม” และนายดนุพร ปุณณกันต์ หรือ “บรู๊ค” ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย มาช่วยลูกทีมหาเสียงต่อเนื่อง

และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยโหมเปิดเวทีใหญ่ถึง 6 จุดในเขต 4 อำเภอที่มีคนของพรรคเพื่อไทยลงแข่งขันกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ โดยนางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่มีทั้งน้องและหลานชาย รวมถึงแกนนำคนเสื้อแดงลงสมัครขนเอาทั้ง ส.ส. “แซม” ยุรนันท์ ภมรมนตรี และ “บรู๊ค” ดนุพร ปุณณกันต์ มาขึ้นเวทีช่วยขอคะแนนให้ผู้สมัครของตน

สำหรับเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ที่คาดว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เช่น เขตเลือกตั้ง อ.วชิรบารมี เขต 2 พื้นที่นี้ เดิมรู้กันว่าเป็นดินแดนร้อยศพ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจะรู้ผลคะแนนล่วงหน้าเสมอว่าใครจะได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิก อบต. นายก อบต. รวมกระทั่ง ส.อบจ.หรือ ส.ส. เพราะแค่เอ่ยชื่อชั้นบริษัทรับจัดการเลือกตั้ง สี่แยกปลวกสูงจำกัด ก็รู้แล้วว่าใครจะได้เป็นผู้แทน

เขตนี้เดิมนายเจตจันทร์ อังกุลดี “ส.จ.แป๊ะ” ลูกดาบชัย ต้องถือว่าเป็นเจ้าถิ่น เพราะไม่เคยมีใครกล้าแข่งขันด้วย แต่เที่ยวนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เชียร์ผู้สนับสนุนผู้สมัครให้ลงไปป่วนกับน้องชาย และหลานชายของ “เจ๊สุณีย์” จึงทำให้เจ๊สุณีย์ส่งผู้ใหญ่ไสว คนเสื้อแดง หิ้วกระเป๋าข้ามเขตมาลงแข่ง ทำให้คราวนี้นายเจตจันทร์ อังกุลดี “ส.จ.แป๊ะ” เป็นผู้สมัครได้หมายเลข 1 ในนามของทีม “เรารักพิจิตร” และมีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.ปชป. ต้องชิงกับนายศรชัย สิบหย่อม “ผู้ใหญ่ไสว” หมายเลข 2 ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยแบบเต็มตัว

อีกเขตหนึ่งก็ได้แก่ เขต 2 โพธิ์ประทับช้าง ประกอบด้วย ต.ทุ่งใหญ่ ต.เนินสว่าง ต.ดงเสือเหลือง ต.ไผ่ลอบ เฉพาะหมู่ที่ 3, 7, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 18 มีผู้สมัคร 2 คน หมายเลข 1 ได้แก่ นายวรวุธ แก้วทอง “เสี่ยเย็น” น้องชายนายไพฑูรย์ แก้วทอง, หมายเลข 2 ได้แก่นายวาด ขันตีแก้ว “นายกวาด” ที่สวมเสื้อแดงลงสมัคร แถมชูนโยบายหาเสียง “หมู่เฮาลาวโซ่งด้วยกันเด้อ” ดึงคนพื้นที่ที่มีนามสกุล “ตระกูลสิงห์” ต่างๆ เช่น สิงห์ลอ สิงห์เรือง สิงห์เดช สิงห์เวียง สิงห์วี ฯลฯ มาช่วยกันเลือกหมู่เฮา ทำเอาทีมสายล่อฟ้าของพรรคประชาธิปัตย์ปวดหัวไปตามๆ กัน และก่อนหน้านี้มีการเดินหน้าแผนปรองดองว่าพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นพื้นที่ปลอดอาวุธ ควบคู่กับสามง่าม เขต 2 แต่ปรากฏว่ามีการฉีกข้อตกลงก่อนการปิดรับสมัครแค่เพียงครึ่งวัน จึงทำให้เกิดศึก

รวมถึงเขต 1 อ.วชิรบารมี ประกอบด้วย ตำบลบึงบัว วังโมกข์ บ้านนาเฉพาะหมู่ 7 เดิมทีเดียวคุยกันรู้เรื่องว่า นายพงษ์ศักดิ์ เหลืองวิจิตร “เอก” ซึ่งเป็นหลานชายของเจ๊สุณีย์ จะเป็นผู้สมัครของทีม “เรารักพิจิตร” ที่มีนายชาติชาย นายก อบจ.พิจิตร เป็นหัวหน้าทีม แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปจึงเกิดคู่แข่ง โดยผู้สมัครหมายเลข 1 ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ เหลืองวิจิตร “เอก” สวมเสื้อแดงใส่โลโก้เรารักพิจิตร ส่วนผู้สมัครหมายเลข 2 ได้แก่ นายสมทรง ล่นที อดีต ส.จ.ที่ขอเกาะเก้าอี้ไว้ต่อ

อีกเขตคือ อ.สามง่าม เขต 2 ที่ประกอบด้วย ต.เนินปอ หนองโสน รังนก เฉพาะหมู่ที่ 6, 8, 11 เดิมทีเดียวคุยกันเอาไว้ว่าจะให้เป็นเขตปลอดการแข่งขันเหมือนกับเขตโพธิ์ประทับช้างเขต 2 แต่ก็ต้องเปิดศึกกันอีกเขต โดยผู้สมัครหมายเลข 1 ได้แก่ นายพิษณุ เหลืองวิจิตร “ส.จ.รส” น้องชายเจ๊สุณีย์ สวมเสื้อแดงชูโลโก้ “เรารักพิจิตร” ส่วนผู้สมัครหมายเลข 2 ได้แก่ นายเอกวัฒน์ อินทรกูล “อดีตนายกเขียวเนินปอ” ที่สู้ด้วยแรงเชียร์จากสายล่อฟ้า