ดีเอสไอ-ตร.ป่าไม้ บุกยึดเหมืองแร่หัวหินควอทซ์รุกป่าเขาใหญ่กลางเมืองหัวหิน

ประจวบคีรีขันธ์ - จนท.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตร.ป่าไม้ และ จนท.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำกำลังเข้าข้าตรวจสอบเหมืองแร่หัวหินควอทซ์ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางโค่นป่าบนภูเขาป่าเขาใหญ่ โดยไม่ได้รับอนุญาต และทำเหมืองแร่ในขณะที่คดียังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของศาล พร้อมตรวจยึดเครื่องจักร และอุปกรณ์ทั้งหมดห้ามมิให้เคลื่อนย้าย เบื้องต้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบแร่ควอทซ์ที่ยังกองอยู่กว่า 3,000 ตัน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาทว่าก่อนหน้านี้มีการขนย้ายออกไปโดยได้รับอนุญาตหรือไม่ พร้อมจับผู้ต้องหา 1 คน เป็นผู้คุมงานที่เหมืองแร่แห่งนี้

วันนี้ (24 ส.ค.) พ.ต.ท.เสกสรร ศรีตุลาการ ผู้อำนวยการส่วนคดีปราบปรามยาเสพติด 2 สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ณรงค์เดช กมลบุตร รองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พ.ต.ท.พรเทพ อินทรป้าน สว.กก.5 บก.ปทส. ร.ต.ต.อนุศร เอี่ยวสุพรรณ ตำรวจป่าไม้ประจวบฯ นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงาน ทสจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายประชัย อุดมทิพย์สมบัติ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่า ปข.9 (บ้านหนองยิงหมี) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และตำรวจป่าไม้กว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบเหมืองแร่ บริษัท หัวหินควอทซ์ จำกัด ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน บ้านหัวนา ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าเขาใหญ่ โดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการทำเหมืองแร่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ด้านใน พบจุดกองแร่ควอทซ์จำนวน 2 จุด พร้อมที่เก็บวัตถุระเบิด ตลอดจนอาคาร 2 ชั้นจำนวน 2 จุด ทั้งที่พักคนงาน และอาคารสำนักงาน รวมทั้งสถานที่กักเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง และรถไถล้อยาง 2 คัน รถแบ็กโฮขนาดใหญ่ 2 คัน รถขุดเจาะหิน 1 คัน และรถบรรทุกแร่ 1 คัน

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่อีกส่วนได้ขับรถยนต์ขึ้นไปด้านหลังของภูเขา ซึ่งพบว่า สภาพด้านหลังมีการขุดเจาะระเบิดภูเขา จนเป็นช่องเขาขาดขนาดใหญ่ อีกทั้งยังพบการบุกรุกแผ้วถางโค่นป่าบนเขาใหญ่ และทำเส้นทางรถยนต์ขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อทำเหมืองแร่อีกด้วย

พ.ต.ท.เสกสรร ระบุว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจป่าไม้ ได้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งพบว่า มีการกระทำความผิดจริง ในวันนี้จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ทำเหมืองแร่ชนิดควอทซ์ บริษัท หัวหินควอทซ์ จำกัด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทั้งหมด และห้ามมีการเคลื่อนย้ายใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งได้จับกุมตัวพนักงานของเหมืองแร่ 1 คน ซึ่งรับเป็นคนคุมงานทราบชื่อคือ นายกัณฑ์อเนก โลหะมาศ ชาวปทุมธานี และให้การรับสารภาพเบื้องต้น ซึ่งหลังการสอบสวนเสร็จ ทาง พ.ต.ท.ธัญญะ ครุฑเผือก พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน อนุญาตให้ประกันตัว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รายงานให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับทราบผลการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทางสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.เกียรติพงศ์ ขาวสำองค์ รองผู้บังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ (บก.ปทส.) ให้ร่วมทำการตรวจสอบ เหมืองแร่บริษัทหัวหิน ควอทซ์ จำกัด ซึ่งเจ้าของเดิมคือ นางพร้อม อรุณสุวรรณ ผู้ถือประทานบัตรที่ 12936/15955 ทำเหมืองแร่ควอทซ์

ต่อมา ได้มีเจ้าของใหม่ผู้รับช่วงคือ บริษัทหัวหินควอทซ์ จำกัด เข้ามาดำเนินการ แต่พบว่าไม่ทำตามข้อตกลงในสัญญา และมีการจดทะเบียนในนามของบริษัทหัวหินควอทซ์ จำกัด แต่เจ้าของประทานบัตรเก่ากลับไม่ได้เป็นหุ้นส่วนในสัญญาข้อตกลง จนเกิดมีคดีฟ้องร้องขึ้นสู่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทหัวหินควอทซ์ จำกัด ยังคงดำเนินการทั้งระเบิดภูเขาเพื่อหาแร่ควอทซ์ในพื้นที่ 42 ไร่ 3 งาน 73 ตารางวา แต่พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้อีกด้วย

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายอุตสาหกรรมเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งเบื้องต้นให้ข้อมูลว่า หากเหมืองแร่จะทำการขนแร่ออกไปทุกครั้งจะต้องขอใบอนุญาตเพื่อเสียค่าภาคหลวง ซึ่งเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายอุตสาหกรรมเหมืองแร่ แจ้งต่อดีเอสไอว่า จะขอกลับไปตรวจสอบเอกสารอีกครั้งว่า บริษัทหัวหินควอทซ์ จำกัด มีการขออนุญาตขนย้ายแร่ควอทซ์หรือไม่ โดยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และตำรวจป่าไม้