พะเยา - สาธารณสุขจังหวัด รวมถึงภาคการเมืองท้องถิ่นเมืองกว๊านพะเยา ห่วงเปิด “AEC” กระทบความมั่นคง ยาเสพติด และสุขภาพ แนะทุกภาคส่วนตั้งรับอย่างมีสติ
นายธวรรธน์วัชร์ พรหมเผ่า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (AEC) ในปี 2558 นั้น โดยส่วนตัวมองว่าจังหวัดพะเยาที่จะเตรียมความพร้อมรับ AEC นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายที่จะรับโดยไม่มีความพร้อม ซึ่งการมาของ AEC อย่างไรเราก็ต้องรับและปรับตัวให้ทันทุกสถานการณ์ ถือว่าเป็นทั้งโอกาสและการเฝ้าระวังในหลายด้านที่จะต้องดำเนินการควบคู่กัน การพร้อมรับ AEC อย่างมีระบบและมีสติของตัวคน ซึ่งเมื่อเป็นโอกาสด้านเศรษฐกิจของประเทศและส่วนหนึ่งที่จะส่งผลต่อชาวพะเยาด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ตนเป็นกังวลว่าอาจจะมากับ AEC คือปัญหา 3 ประการ 1. ปัญหาด้านความมั่นคง 2. ยาเสพติด และ 3. สุขภาพ ปัญหาทั้ง 3 ด้านตนคิดว่าสำคัญที่สุดคือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง ชุมชน และสังคมท้องถิ่น และส่งความเข้มแข็งไปถึงภาพรวมด้วย
“เราไม่ต่อต้าน AEC เพียงแต่เราจะปรับตัวรับกับมันอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อชาวพะเยาให้มากที่สุด ซึ่งการรับกับเรื่องดังกล่าวก็ต้องมีทั้งการสร้างผลประโยชน์ การเฝ้าระวังเรื่องที่เป็นประเด็นห่วงดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ทั้งเรื่องความมั่นคง ยาเสพติด และสุขภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องมาควบคู่กับ AEC อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเราจะเลือกรับแต่สิ่งที่ดีโดยไม่รับปัญหาย่อมทำได้ลำบาก แต่จะต้องมีการวางแผนรับกับปัญหาให้ได้ด้วย” รองนายก อบจ.พะเยากล่าว
ด้านนางอารีย์ ตันบรรจง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พะเยา กล่าวว่า การเปิดเสรีย่อมไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้กับเรื่องของปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาโรคระบาด แม้ว่าขณะนี้ AEC จะยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่สังเกตพบว่าจังหวัดที่แนวชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า หรือกัมพูชามีการเกิดโรคระบาด ซึ่งโรคติดต่อที่เป็นโรคระบาด หากมีตัวบุคคลและสัตว์ที่เป็นพาหะมาพร้อมกันคือองค์ประกอบทำให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย
ดังนั้น เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดรองรับอยู่แล้ว เช่น การตั้งด่านก่อนเข้าเมืองทั้งคนและสัตว์ต่างๆ การตั้งเครื่องสแกนร่างกายตรวจโรคของผู้คนที่เดินทางเข้ามา หากพบผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะมีเชื้อหรือติดเชื้อโรคระบาดใดๆ ต้องมีด่านกักให้พักการเดินทางจนกว่าจะหาย หรือการติดตามข้อมูลข่าวสารของประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับสถานการณ์โรคต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในเมืองเรา
“ตรงนี้มั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการรับมืออย่างละเอียดและเข้มข้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญการสร้างภูมิคุ้มกัน ฉีดวัคซีนให้ประชาชนป้องกันโรคระบาด รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการเกิดโรคทุกพื้นที่ จะช่วยทำให้การเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น” นายแพทย์ สสจ.พะเยากล่าว
นายธวรรธน์วัชร์ พรหมเผ่า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (AEC) ในปี 2558 นั้น โดยส่วนตัวมองว่าจังหวัดพะเยาที่จะเตรียมความพร้อมรับ AEC นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายที่จะรับโดยไม่มีความพร้อม ซึ่งการมาของ AEC อย่างไรเราก็ต้องรับและปรับตัวให้ทันทุกสถานการณ์ ถือว่าเป็นทั้งโอกาสและการเฝ้าระวังในหลายด้านที่จะต้องดำเนินการควบคู่กัน การพร้อมรับ AEC อย่างมีระบบและมีสติของตัวคน ซึ่งเมื่อเป็นโอกาสด้านเศรษฐกิจของประเทศและส่วนหนึ่งที่จะส่งผลต่อชาวพะเยาด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ตนเป็นกังวลว่าอาจจะมากับ AEC คือปัญหา 3 ประการ 1. ปัญหาด้านความมั่นคง 2. ยาเสพติด และ 3. สุขภาพ ปัญหาทั้ง 3 ด้านตนคิดว่าสำคัญที่สุดคือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง ชุมชน และสังคมท้องถิ่น และส่งความเข้มแข็งไปถึงภาพรวมด้วย
“เราไม่ต่อต้าน AEC เพียงแต่เราจะปรับตัวรับกับมันอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อชาวพะเยาให้มากที่สุด ซึ่งการรับกับเรื่องดังกล่าวก็ต้องมีทั้งการสร้างผลประโยชน์ การเฝ้าระวังเรื่องที่เป็นประเด็นห่วงดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ทั้งเรื่องความมั่นคง ยาเสพติด และสุขภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องมาควบคู่กับ AEC อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเราจะเลือกรับแต่สิ่งที่ดีโดยไม่รับปัญหาย่อมทำได้ลำบาก แต่จะต้องมีการวางแผนรับกับปัญหาให้ได้ด้วย” รองนายก อบจ.พะเยากล่าว
ด้านนางอารีย์ ตันบรรจง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พะเยา กล่าวว่า การเปิดเสรีย่อมไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้กับเรื่องของปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาโรคระบาด แม้ว่าขณะนี้ AEC จะยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่สังเกตพบว่าจังหวัดที่แนวชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า หรือกัมพูชามีการเกิดโรคระบาด ซึ่งโรคติดต่อที่เป็นโรคระบาด หากมีตัวบุคคลและสัตว์ที่เป็นพาหะมาพร้อมกันคือองค์ประกอบทำให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย
ดังนั้น เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดรองรับอยู่แล้ว เช่น การตั้งด่านก่อนเข้าเมืองทั้งคนและสัตว์ต่างๆ การตั้งเครื่องสแกนร่างกายตรวจโรคของผู้คนที่เดินทางเข้ามา หากพบผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะมีเชื้อหรือติดเชื้อโรคระบาดใดๆ ต้องมีด่านกักให้พักการเดินทางจนกว่าจะหาย หรือการติดตามข้อมูลข่าวสารของประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับสถานการณ์โรคต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในเมืองเรา
“ตรงนี้มั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการรับมืออย่างละเอียดและเข้มข้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญการสร้างภูมิคุ้มกัน ฉีดวัคซีนให้ประชาชนป้องกันโรคระบาด รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการเกิดโรคทุกพื้นที่ จะช่วยทำให้การเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น” นายแพทย์ สสจ.พะเยากล่าว
