ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมป้องกันจังหวัด นำกำลังทหารพราน 1403 ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุร์สีห์ ตชด. อส. เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช-ป่าคลองกรูด พื้นที่หมู่ 9 บ้านคลองเพลิน ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน พบถูกกลุ่มนายทุนในพื้นที่เข้าโค่นป่า และแผ้วถางทำให้พื้นที่ป่ากลายเป็นสภาพเขาหัวโล้นกว่า 300 ไร่ เบื้องต้น สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ปล่อยให้มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมให้ตำรวจสอบสวนหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังการบุกรุกป่าแปลงนี้ให้ได้ และให้ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน จัดกำลังเฝ้าพื้นที่ที่ตรวจยึด
วันนี้ (22 ส.ค.) สภาพป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช-ป่าคลองกรูด ในพื้นที่หมู่ 9 บ้านคลองเพลิน ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลายเป็นภูเขาหัวโล้น หลังถูกบุกรุกโค่นไม้ใหญ่และแผ้วถาง และลงมือใช้เครื่องจักรกลปรับไถพื้นที่ พร้อมทำถนนเพื่อให้รถยนต์สามารถเข้าถึงพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าร้องเรียนต่อ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทันทีที่ได้รับข้อมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลัดอำเภอบางสะพาน นำกำลัง อส. และทหารพรานที่ 1403 ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุร์สีห์ ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาบ้านคลองเพลินที่ถูกบุกรุกทันที และพบสภาพป่าสงวนแห่งชาติกลายเป็นภูเขาหัวโล้น
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า พื้นที่ซึ่งมีการบุกรุกแปลงนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช-ป่าคลองกรูด เบื้องต้น นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้วัดพื้นที่ซึ่งถูกบุกรุกทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าประมาณ 300-400 ไร่
นอกจากนั้นแล้ว ทางหน่วยทหารพราน และทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก พร้อมกำลัง อส.ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกบริเวณจุดข้างเคียงอีกหลายแปลง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน จัดเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่ซึ่งถูกบุกรุก และให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
ทั้งนี้ ระหว่างเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแปลงดังกล่าว ยังได้จับกุม น.ส.ฤดี ชาลี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.4 บ้านวังยาว ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพรสิน อินทรัง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/5 ม.9 บ้านคลองเพลิน ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนายหนุ่ม อายุ 32 ปี แรงงานต่างด้าวชาวพม่า และอีกรายเป็นคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งอยู่ในพื้นที่ และยอมรับว่ารับจ้างมาปลูกยาง และสับปะรดเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปดำเนินการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอบางสะพาน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวด้วยว่า การบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่อำเภอบางสะพาน พบว่ากลุ่มที่บุกรุกเป็นนายทุนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้พล.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ดำเนินการให้พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน สอบสวนหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังการโค่นป่าแปลงนี้ให้ได้ และเตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงของหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ปล่อยให้มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติฯ
พร้อมทั้งเตรียมที่จะจัดตั้งชุดอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมาฝึกเป็นอาสาสมัครรักษาป่าขึ้นในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งต้องตรวจสอบ และทำทะเบียนประวัติที่ดินที่ถูกบุกรุก และที่ยึดคืนมาทั้งหมด รวมทั้งการใช้มาตรา 25 เพื่อยึดคืนผืนป่า ตลอดจนการดำเนินการฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป