ประจวบคีรีขันธ์ - ทหารพราน พร้อมทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน อ.บางสะพานน้อย เข้าตรวจสอบพบผืนป่าต้นน้ำของโครงการฟื้นฟูสภาพป่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหนืออ่างเก็บน้ำหุบตาหวัด อันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพุน้ำเค็ม ถูกนายทุน และนักการเมือง ชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางเป็นพื้นที่กว้างกว่า 1,000 ไร่ ปลูกยางพารา ส่งผลกระทบให้อ่างเก็บน้ำในพื้นที่แห้งขอด
วันนี้ (17 ส.ค.) ข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า ปัญหาป่าต้นน้ำในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ป่าต้นน้ำในอำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย ยังคงมีการบุกรุกจากทั้งนายทุน กลุ่มการเมืองทั้งท้องถิ่น และระดับชาติ รวมไปถึงชาวบ้านเพื่อนำพื้นที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งยางพารา และปาล์มน้ำมัน
ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบางสะพาน อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำข้อมูลแจ้งต่อฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้เข้ามาดำเนินการหยุดยั้ง และยึดคืนผืนป่าต้นน้ำของโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีการบุกรุกกันอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนป่าต้นน้ำไม่หลงเหลือป่าให้เห็นในปัจจุบัน และยังส่งผลกระทบทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำเหือดแห้งจนชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน
กระทั่งวันนี้ พ.ต.เฉลิมพล คุปตะวาทิน ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1403 นำกำลังทหารพราน พร้อมทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ปลัดอำเภอบางสะพานน้อย ฝ่ายความมั่นคง ผู้ใหญ่บ้าน และนายคงศักดิ์ มีแก้ว นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ดูแลโครงการฟื้นฟูสภาพป่าเหนืออ่างเก็บน้ำหุบตาหวัด พร้อมชาวบ้านพากันเดินทางไปยังพื้นที่ป่าต้นน้ำของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุน้ำเค็ม
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ทหารเดินขึ้นไป พบบนภูเขาถูกบุกรุกแผ้วถางจนกลายเป็นภูเขาหัวโล้นหมดแล้ว และมึการนำกล้ายางลงปลูกในพื้นที่บุกรุก จนเกือบเต็มพื้นที่โครงการพระราชดำริ
นอกจากนั้น ยังตรวจพบกลุ่มที่เข้าบุกรุกพื้นที่ มาทำการเฉาะปล่องเพื่อเปิดป่าเตรียมเอากล้ายางบางส่วนที่เตรียมไว้ปลูกลงในพื้นที่บุกรุก และยังพบร่องรอยเพิงพักซึ่งทางทหารได้ทำการรื้อถอนออก
อย่างไรก็ตาม เมื่อทางเจ้าหน้าที่ทหารพราน และทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึกกองกำลังสุรสีห์ กระจายกำลังออกตรวจสอบพื้นที่แต่ไม่พบผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าจะหลบออกไปจากพื้นที่ก่อนกำลังเข้าไปถึง อีกทั้งยังพบว่า เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บนยอดเขา ยังพบเห็นผืนป่าที่อยู่อีกฝั่งมีการโค่นป่าเป็นบริเวณกว้าง
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าทีฝ่ายทหารที่เข้าตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่โครงการพระราชดำริ ระบุตรงกันว่า พื้นที่โครงการกว่า 1,000 ไร่ และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุน้ำเค็ม ถูกบุกรุกไปเกือบทั้งหมดในปัจจุบัน โดยชาวบ้านในพื้นที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลปัญหาทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายจนส่งผลให้เกิดสภาพแห้งแล้งตามมา
ชาวบ้านบอกด้วยว่า ผืนป่าแถบนี้มีการขายกันในราคาไร่ละสองแสนถึงห้าแสนบาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับสภาพว่าต้นยางจะมีอายุกี่ปี หรือหากพื้นที่ยังไม่ได้ลงกล้ายางก็อาจขายกันในราคาไล่ละ 10,000-20,000 บาทต่อไร่
พ.ต.เฉลิมพล คุปตะวาทิน ผู้บังคับการกองร้อยทหารพรายที่ 1403 บอกว่า ขณะนี้ได้ประสานงานให้หน่วยงานป่าไม้ที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบ และรังวัดแนวเขตพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก รวมไปถึงให้เข้าตรวสอบพื้นที่ป่าที่มีการโค่นใหม่ และเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อสืบหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป
สำหรับผืนป่าที่ยึดคืนวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจะเข้าไปดำเนินการฟื้นฟูสภาพป่าต่อไปเพื่อให้กลับมาเป็นป่าต้นน้ำของอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์