อุทาหรณ์! ชาวบ้านลงขันตั้งสหกรณ์ฯ สุดท้ายทุนหาย-กำไรหด แถมถูกทวงหนี้ซ้ำ

น่าน - ชาวบ้านนิคมภูเพียง เมืองน่าน รวมตัวกันขึ้น อบต.จี้ให้เคลียร์ปัญหาถูกทวงหนี้เงินกู้สหกรณ์ อบต.ฝายแก้ว หลังชวนชาวบ้านลงขันซื้อหุ้นแล้วให้รวมกลุ่มกู้เงินมาเป็นทุนหมุนเวียนซื้อปุ๋ย อุปกรณ์การเกษตร ผ่านมา 2 ปีไร้ดอกไร้ผล ทุนหายกำไรหด แถมเจอทวงหนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่าสุดรองนายก อบต.ออกหน้ารับขอเงินกรรมการจ่ายให้ภายในศุกร์นี้ (24 ส.ค.) รับแจ้งเลิกสหกรณ์ฯ แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดน่านวันนี้ (20 ส.ค.) ว่า ชาวบ้านบ้านนิคม หมู่ที่ 15 ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เกือบ 20 คน ได้เดินทางไปที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลฝายแก้วเพื่อขอคำชี้แจงกรณีมีหนังสือทวงหนี้ไปถึงชาวบ้าน 20 ราย ให้ใช้หนี้คนละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 2 แสนบาท และยังมีบางคนได้รับหนังสือทวงหนี้ 2-3 ฉบับ ให้ชำระหนี้ฉบับละ 10,000 บาท

นางวาสนา เขื่อนคำ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า เมื่อปี 2553 ทาง อบต.ฝายแก้วได้เชิญชาวบ้านจำนวน 20 รายไปเซ็นชื่อกู้เงินจากโครงการเศรษฐกิจชุมชนของตำบลฝายแก้ว ณ ที่ทำการ อบต.เพื่อมาลงทุนตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ฝายแก้ว จำกัด ดำเนินการโดย อบต.ซึ่งทาง อบต.ฝายแก้วบอกว่าจะนำเงินไปจัดซื้อปุ๋ย วัสดุอุปกรณ์การเกษตร และเป็นกองทุนหมุนเวียนให้เกษตรกร จากนั้นชาวบ้านได้ตั้งกลุ่มอาชีพเกษตรขึ้นมารองรับ เช่น กลุ่มทำนา กลุ่มเลี้ยงโค-กระบือ แต่ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปีไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านไม่ได้ผลประโยชน์จากสหกรณ์ดังกล่าว ที่สำคัญชาวบ้านยังถูกหนังสือทวงหนี้จากโครงการเศรษฐกิจชุมชน

และที่ผ่านมาชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรได้พากันมาทวงถาม พร้อมกับให้ อบต.ฝายแก้ว ชี้แจงพร้อมทั้งจัดการรับภาระหนี้สินดังกล่าว ซึ่งมีการรับปากจะดำเนินการให้หลายครั้งแต่ก็ยังมีหนังสือทวงหนี้มาถึงชาวบ้านตลอด ล่าสุดทาง อบต.ฝายแก้วรับปากว่า จะดำเนินการชำระหนี้ให้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2555 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ดำเนินการ ชาวบ้านจึงพากันมาร้องเรียน และให้ดำเนินการทันที เนื่องจากชาวบ้านหลายคนเครียดจัดจนไม่เป็นอันทำมาหากิน พร้อมกันนั้นชาวบ้านก็ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสหกรณ์ด้วย

ด้าน อบต.ฝายแก้ว โดยนางสาววีรดา มีชัย รองนายก อบต.ฝายแก้ว ในฐานะประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ฝายแก้ว จำกัด ได้ประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านทราบว่า ทาง อบต.ฝายแก้วในฐานะที่ดูแลสหกรณ์ดังกล่าว กำลังรวบรวมเงินส่วนตัวจากคณะกรรมการบริหารที่มีทั้งหมด 17 คนไปชำระหนี้แทนชาวบ้าน โดยรับปากว่าจะชำระภายในวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2555 นี้ ส่วนที่ล่าช้าเนื่องจากต้องมีการประชุมคณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น และขณะนี้ทางสหกรณ์ก็ได้ยื่นหนังสือขอยกเลิกสหกรณ์ไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาการบริหารมีปัญหาภายใน

ทั้งนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ฝายแก้วได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2553 โดยเรียกเก็บเงินเป็นค่าหุ้น หุ้นละ 10 บาทจากชาวบ้าน ซึ่งในวันสมัครเป็นสมาชิกแต่ละคนได้ลงทุนซื้อหุ้นคนละอย่างน้อย 20 หุ้น และเสียค่าเอกสารอีก 30 บาท รวมเป็นเงิน 230 บาท และยังต้องไปกู้เงินอีกกลุ่มละ 1 แสนบาทเพื่อนำมาเป็นทุนหมุนเวียนของสหกรณ์ฯ และก่อนหน้านี้ ที่บ้านปัวชัย ตำบลฝายแก้วก็มีปัญหาเช่นกันจน อบต.ต้องใช้เงินแทนชาวบ้านเป็นเงิน 1 แสนบาท ซึ่งคาดว่าจะมีปัญหาลักษณะนี้หลายหมู่บ้าน