อุบลราชธานี - ฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน ส่งผลให้ต้นข้าวนอกเขตชลประทานใน อ.วารินชำราบ ได้รับความเสียหายกว่า 3.8 หมื่นไร่ หรือร้อยละ 1 ของพื้นที่ วอนรัฐช่วยทำฝนเทียมและคลองส่งน้ำแก้ปัญหาระยะยาว ขณะที่พายุไต้ฝุ่นไคตั๊กอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนจะส่งผลดีกับต้นข้าวที่ขาดแคลนน้ำ
ชาวนาในบ้านลิ้นไม้ ต.โพธิ์ใหญ่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กำลังหว่านปุ๋ยในนาปลูกข้าว เนื้อที่กว่า 18 ไร่ และกำจัดวัชพืชพร้อมทั้งต้นข้าวที่แห้งตายออกจากแแปลงนา เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นข้าวที่ยังเหลืออยู่
นายมนตรี สีสันต์ ชาวนาบ้านลิ้นไม้ ระบุว่า ปีนี้เกิดฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน ส่งผลกระทบกับต้นข้าวขาดน้ำ เพราะพื้นที่เพาะปลูกของตนอยู่นอกเขตชลประทาน จึงขอให้รัฐบาลช่วยมาทำฝนเทียน และทำโครงการคลองส่งน้ำ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวะอากาศโลกมีการเปลี่ยนแปลงมาก ต่างจากในอดีต ความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี และหากเดือนกันยายนฝนตกไม่เพียงพอ ผลผลิตอาจเสียหายทั้งหมด
ขณะที่ลำน้ำหอไตรที่เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล ซึ่งไหลผ่าน ต.แพงใหญ่ และต.เหล่าเสื้อโก้ก อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี มีระดับน้ำลดลง จนเห็นเนินดินและลำน้ำเริ่มขาดเป็นช่วงๆ เพราะฝนทิ้งช่วงนานกว่า 1 เดือน ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูก
โดยเฉพาะพื้นที่ไกลจากลำน้ำ เกษตรกรไม่สามารถดึงน้ำเข้าไปรดต้นข้าวได้ ทำให้หลายพื้นที่เริ่มมีต้นข้าวที่เพิ่งปักดำยืนต้นแห้งตายหลายร้อยไร่ และต้นข้าวอีกบางส่วนกำลังได้รับผลกระทบ ซึ่งได้ทำเรื่องขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสูบน้ำใช้เลี้ยงต้นข้าวแล้ว
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันอออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี ระบุสภาพอากาศวันที่ 18-19 ส.ค. ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นไคตั๊ก ที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเมืองกว๋างนินห์ ประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 60 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 21.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก
ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาวในระยะต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ในช่วงวันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีลมแรง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ซึ่งจะเป็นผลดีกับต้นข้าวที่กำลังขาดน้ำใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวในระยะนี้
สำหรับพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีประจำฤดูกาลผลิต 2554/2555 จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 4.2 ล้านไร่ แบ่งเป็นข้าวเจ้าหอมมะลิ และ กข.15 กว่า 3.2 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 1.3 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเหนียว กข.6 และพันธุ์ข้าวเหนียวอื่นๆกว่า 1 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 428,770 ตันข้าวเปลือก และมีพื้นที่เสียหายจากน้ำท่วมและแมลงศัตรูพืชกว่า 1 แสนไร่ ส่วนภัยแล้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกนอกเขตชลประทานครอบคลุมทั้งจังหวัดแล้วกว่า 3.8 หมื่นไร่ หรือราวร้อยละ 1 ของพื้นที่การเพาะปลูกทั้งหมด