อุบลราชธานี - จังหวัดอุบลราชธานีระดมทำพนัง ขุดร่องน้ำ พร้อมให้ฝายและเขื่อนลดระดับการเก็บกักน้ำเพื่อเตรียมรับน้ำใหม่ที่จะมากับพายุในปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยจังหวัดวางมาตรการเตรียมพร้อมสูงเท่ากับปีที่แล้ว แต่คาดปีนี้น้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการรับมือน้ำท่วมที่ท่าน้ำวัดแสงเกษม เทศบาลตำบลเมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างได้ใช้รถแบ็กโฮปรับหน้าดิน ทำสโลปไหล่ตลิ่งที่เคยทรุดตัว เพื่อทำพนังกั้นน้ำลำน้ำโดมใหญ่ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล ไม่ให้น้ำไหลท่วมชุมชนประปาในฤดูน้ำหลาก โดยใช้หินแกรนิตภูเขาปูและคลุมทับด้วยตาข่ายเหล็กกันน้ำกัดเซาะดินเสียหาย
สำหรับพนังกั้นน้ำแห่งนี้ได้รับงบประมาณจากกรมเจ้าท่าจำนวน 5.3 ล้านบาท ทำพนังกั้นน้ำเป็นสองชั้นความยาวประมาณ 145 เมตร และงานได้เสร็จไปแล้วประมาณ 75% คาดว่าหลังพนังกั้นน้ำเสร็จสมบูรณ์จะบรรเทาปัญหาตลิ่งทรุดตัว และแก้ปัญหาน้ำไหลท่วมชุมชนตามริมแม่น้ำลำโดมใหญ่เหมือนในปีที่ผ่านมาได้
ขณะเดียวกัน ที่ลำห้วยแจระแม ต.แจระแม อ.เมือง ที่ตื้นเขิน ผู้รับเหมาได้ขุดดินให้มีความลึกเพิ่มจากเดิมอีก 4 เมตรเพื่อรองรับน้ำให้ไหลสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับลำห้วยแจระแมแห่งนี้เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแก้มลิงที่จังหวัดระดมขุดลอกหนองน้ำสาธารณะ บึง ใช้รองรับน้ำจากด้านเหนือของจังหวัดเพื่อลดผลกระทบให้ชุมชนริมแม่น้ำมูลที่ต้องถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี
สำหรับโครงการแก้มลิงของจังหวัดอุบลราชธานี หากโครงการเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์จะสามารถรองรับน้ำได้กว่า 20 ล้านลูกบากศ์เมตร
ด้านนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ระบุว่า จากข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี คาดว่าปลายเดือนสิงหาคมต่อต้นเดือนกันยายนจะมีพายุและหย่อมความกดอากาศต่ำพัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกในพื้นที่ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูล จึงให้รีบขุดลอกลำน้ำที่ตื้นเขิน รวมทั้งให้ฝายและเขื่อนทำการพร่องน้ำไว้รองรับน้ำใหม่ที่จะไหลมารวมกันไว้ล่วงหน้าเพื่อลดระดับน้ำท่วมไม่ให้รุนแรงเหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา
สำหรับการเตรียมรับมือน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ปีนี้ได้ตั้งเป้าเฝ้าระวังในระดับสูงเท่ากับปี 2554 ซึ่งแม่น้ำมูลล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนต่างๆ สูงกว่า 2.8 เมตร มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวมกันกว่า 6,000 ครอบครัว แต่คาดว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมสูงเท่ากับปีที่แล้ว เพราะหน่วยงานมีการเตรียมรับมือเหตุอุทกภัยไว้หลายด้านแล้ว
