xs
xsm
sm
md
lg

“เกย์นที” แห้ว! อำเภอปฏิเสธจดทะเบียนสมรส-เล็งฟ้องศาลปกครอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เกย์นที” ควงหนุ่มคู่ชีวิตขึ้นที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมยื่นขอจดทะเบียนสมรม แต่ผิดหวังอำเภอปฏิเสธเหตุกฎหมายระบุแต่งงานต้อง “ชาย-หญิง” เท่านั้น ยันไม่ท้อเตรียมยื่นศาลปกครองวินิจฉัยต่อขัด รธน.มาตรา 30 หรือไม่ เผยครองคู่มา 19 ปีแต่เหมือนชีวิตไม่สมบูรณ์จึงอยากจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

วันนี้ (9 ส.ค.) นายนที ธีระโรจนพงษ์ หรือเกย์นที ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทยและแกนนำกลุ่มเชียงใหม่อารยะ พร้อมด้วยนายอรรถพล จันทวี ซึ่งนายนทีระบุว่าเป็นคู่ชีวิตที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นเวลา 19 ปี เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส โดยมีนายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร ปลัดอาวุโส และนายดำรง ทิพย์เดช ปลัดอำเภอระดับชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร เป็นผู้รับเรื่อง

โดยนายนที และนายอรรถพลได้นำเอกสารต่างๆ มาประกอบในคำร้องขอจดทะเบียนสมรม เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต และสมุดบัญชีเงินฝากที่ทั้งคู่ได้ทำร่วมกัน อย่างไรก็ตาม นายดำรงค์ได้แจ้งต่อนายนที และนายอรรถพลว่าทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสให้ทั้งคู่ได้ เนื่องจากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในหมวดเงื่อนไขแห่งการสมรสระบุว่า การสมรสตามกฎหมายไทยนั้นกระทำได้เฉพาะระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น

ดังนั้นจึงไม่สามารถทำการจดทะเบียนสมรสระหว่างนายนที กับนายอรรถพลได้ แต่ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่จะรับคำร้องและออกหนังสือปฏิเสธการรับคำร้องให้นายนที และนายอรรถพลเพื่อเป็นหลักฐานแทน พร้อมทั้งแจ้งต่อนายนที และนายอรรถพล ว่าสามารถนำหนังสือดังกล่าวไปใช้ในการยื่นคำร้องเพื่อขอรักษาสิทธิหรือเพื่อการแก้ไขกฎหมายได้

นายนทีกล่าวภายหลังจากที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ปฏิเสธที่จะทำการจดทะเบียนสมรสให้ว่า กรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตนคาดหมายไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกร้องสิทธิในเรื่องดังกล่าวต่อไป โดยจะเข้ายื่นเรื่องต่อศาลปกครองในสัปดาห์หน้า โดยจะร้องเรียนว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 30 หรือไม่

นายนทีกล่าวต่อว่า การออกมายื่นขอจดทะเบียนสมรสระหว่างตนกับนายอรรถพลในครั้งนี้เป็นเพราะตนนั้นอายุมากแล้ว และพวกตนได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานาน ประกอบกับตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันพบว่าพวกตนขาดสิทธิในหลายๆ ด้าน จึงอยากจะดำเนินการเพื่อให้การใช้ชีวิตคู่ของตนมีความสมบูรณ์ตามกฎหมาย

ส่วนการที่เลือกใช้วิธีดังกล่าวเป็นเพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่ตนสามารถดำเนินการได้สะดวกที่สุด โดยที่ผ่านมาตนได้เคยยื่นหนังสือเรียกร้องในกรณีดังกล่าวผ่านทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ส่วนการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอขอแก้ไขกฎหมายนั้นเคยคิดเอาไว้ แต่เห็นว่ามีความยุ่งยากมากจึงยังไม่ได้ดำเนินการ

ทั้งนี้ ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีที่กฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งคงจะต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลว่าจะสามารถขัดแย้งกันได้หรือไม่ ส่วนตนนั้นถือว่าได้เรียกร้องขอความเห็นใจจากสังคมแล้วเพราะเชื่อว่าคนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจและมีความเมตตา รวมทั้งเห็นว่าในช่วงเวลาที่ไทยเตรียมจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในฐานะของประเทศที่เป็นผู้นำในอาเซียน จึงควรนำเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนทุกเพศขึ้นมาดำเนินการให้เกิดความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น