ระดม จนท.เชียงราย ร่วมซ้อมใหญ่รับแผ่นดินไหว-ตึกสูงทรุด ไฟไหม้

เชียงราย - ผู้ว่าฯเชียงราย กดปุ่มเปิดการซ้อมรับมือแผ่นดินไหวใหญ่ให้เจ้าหน้าที่ วางโปรแกรมทั้งอบรม-ฝึกซ้อม 2 วัน จำลองเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ ทำโรงแรมทรุด-ไฟไหม้ คนติดตึกสูง ฯลฯ ย้ำต้องปฏิบัติได้จริงเมื่อเกิดเหตุ

วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ห้องสีป้อ โรงแรมริมกกรีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมเฉพาะเจ้าหน้าที่ ตามโครงการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรณีเกิดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว อาคารถล่ม และระงับอัคคีภัย จ.เชียงราย ซึ่งนายเชษฐา โฆษิกรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, ตำรวจ, ทหาร, หน่วยกู้ภัย, โรงพยาบาล, สาธารณสุข ฯลฯ เข้าร่วม โดยมีการจัดแบ่งเป็น 8 กลุ่มเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ และวิธีการปฏิบัติภายใต้การฝึกซ้อมเป็นเวลารวม 2 วัน

นายธานินทร์กล่าวว่า ขอเน้นย้ำว่าการฝึกซ้อมจะต้องทำให้สามารถนำไปปฏิบัติงานได้จริงเพราะเมื่อเกิดภัยแล้วจะมีปัญหาเรื่องความวุ่นวายและสับสนมาก ถ้าฝึกซ้อมก็จะเกิดความเคยชินและมีแนวทางการปฏิบัติในแต่ละกลุ่มทั้ง 8 กลุ่มดังกล่าว โดยแต่ละกลุ่มต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเองมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การกู้ภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นายเชษฐากล่าวว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้จะมีการจำลองสถานการณ์สมมติขึ้นว่าได้เกิดแผ่นดินไหววัดความแรงตามมาตรวัดริกเตอร์ได้ 4-5 ริกเตอร์ บริเวณ อ.เมือง ตรงละติจุดที่ 19.90 องศาเหนือ ที่ลองติจูด 99.93 องศาตะวันออก ความลึก 24 กิโลเมตร ขนาด 4.5 ริกเตอร์ รู้สึกสั่นไหวได้ทั้งในเชียงราย พะเยา และเชียงใหม่ จนทำให้บ้านเรือนและอาคารสูงหลายแห่งได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงราย มีอาคารทรุดตัว เกิดเพลิงไหม้ที่ชั้น 3 โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทย-ต่างชาติติดอยู่ด้วยประมาณ 20 คน ตามโรงพยาบาลมีผู้ป่วย-ญาติ ติดอยู่ในอาคารโรงพยาบาล เช่นเดียวกับอาคารต่างๆ อีกหลายแห่ง ระบบสัญญาณจราจรขัดข้องหลายจุด ระบบสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ขัดข้อง ฯลฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะจำลองการช่วยเหลือตามจุดต่างๆ ท่ามกลางการสั่นไหวที่ตามมา หรืออาฟเตอร์ช็อค โดยมีการจัดที่พักอาศัยให้ประชาชนหลายพันครัวเรือนด้วย

รายงานจากกรมทรัพยากรธรณีระบุว่า ภาคเหนือมีรอยเลื่อนใหญ่ๆ จำนวน 4 รอยคือรอยเลื่อนเชียงแสน รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่อิง และรอยเลื่อนมูลาว แต่หากรวมรอยเลื่อนในประเทศเพื่อนบ้านคือพม่าและ สปป.ลาว ที่อยู่ติดกันก็จะพบว่ามีรอยเลื่อนขนาดใหญ่เรียกว่ารอยเลื่อนสะแกอยู่ด้วย โดยผ่านกลางเมืองปิ่นมะนา ทั้งนี้ ในอดีตเคยไหวแรงถึง 7 ริกเตอร์ และทางตอนเหนือมีรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งได้ส่งผลกระทบครั้งรุนแรงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 54 จนทำให้รัฐฉานของพม่าเสียหายหนักมีบ้านเรือนพัง คนเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันพบว่ามีชาว อ.แม่สาย เสียชีวิต 1 คน ส่วนฝั่งตะวันออกทาง สปป.ลาว มีรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งยังแตกแขนงออกเป็นหลายรอย คือรอยเลื่อนแม่จัน แม่อิง ฯลฯ นั่นเอง

สำหรับรอยเลื่อนแม่จันยาว มีความยาวประมาณ 150 กิโลเมตร ตั้งแต่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ทอดยาวผ่านบ้านกิ่วสะไต-บ่อน้ำพุร้อนป่าตึง-แม่จัน-เชียงแสน-สปป.ลาว โดยสันนิฐานว่าเคยไหวแรงจนทำให้เกิดตำนานเวียงหนองหล่ม หรือเมืองในอาณาจักรโยนกนคร ล่มลงเมื่อนับพันปีก่อน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีได้ลงพื้นที่ศึกษาพื้นดินที่หมู่บ้านโป่งปากแขม อ.แม่จัน พบว่า ใต้ดินมีหลักฐานระบุว่าเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 1,500 ล้านปีก่อน วัดความแรงได้ถึง 6.6 ริกเตอร์ จนทำให้ชั้นดินฉีกขาดจากนั้นก็ไม่เคยเคลื่อนตัวอีกเลย